By

อุดร ทองน้อย

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 11

ดอกเตอร์สีโห บุญบา ออกจากห้องบรรยาย กลับเข้ามานั่งในห้องอาจารย์แล้วงีบหลับไปชั่ว ขณะ พอดีมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงรู้สึกตัวใช้มือ นวดคลึงท้ายทอยตนเองและหาวด้วยการอ้าปาก กว้าง ๆ ก่อนจะยกมือไปยกโทรศัพท์มาแนบหู

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 10

เมื่อคราวที่จารย์บุญและจารย์แก้วกับอีแพงเมียข่า พร้อมครอบครัวชาวข่าจำนวนหนึ่งลงมาจากยอดภู พวกเขาก็เดินทางเข้าตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ดินแดนห้วยขุหลุ อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนแต่เดิมมาของจารย์บุญ ฝ่ายเฒ่าแก่และหมู่ญาติก็พากันทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 9

วันหนึ่ง, เมื่อคณะของหลวงสากลกิจฯเสร็จการตรวจตราการทำแผนที่แล้วเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ฉันยังมีคำสั่งให้ช่วยพระยอดเมืองขวางทางด้านนี้อยู่ หมื่นประจักษ์สนิทนึกก็ชักชวนฉันขึ้นท่าที่เมืองนครพนม “ผมรู้ว่าท่านห่างบ้านห่างครอบครัวมานานชวนไปแสวงหาความสำราญคงไม่ว่าอะไร?” “จะว่าอะไรได้” ฉันบอก “นั่งดื่มเหล้าเว้าความลาวแล้วเมาหลับไป ทำกันอยู่บ่อย ๆ” “หามิได้ขอรับ บริวารผมที่นครพนมมีความสำราญอย่างใหม่” “บอกได้มั้ย ว่าความสำราญนั้นเป็นอย่างใด?” “ท่านต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองขอรับ”

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 8

“วันนี้ใช้อาวุธปืนล่าเมืองขึ้น ดาบนี้จะสู้ปืนได้หรือครู?” จารย์แก้วถาม “สมัยปู่สังกะสา ย่าสังกะสี มือกำดาบออกต้านผู้รุกราน สมัยนี้มือถือปืนรุกรานเข้ามา เป็นผีซ้ำด้ำพลอย สุดจะหยั่งความคิดคน เมืองญวน เมืองเขมรมันก็เอาไปแล้ว ดินแดนข่ามันก็รุกเข้ามาทุกวัน แล้วเอ็งยังจะคิดว่าพอจะสู้พวกมันได้มั้ย?”

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 7

นายจำรัส ดนัยมนัสราษฎร์ เปิดบันทึกจางวางดนัยมนัสราษฎร์อ่านต่อไปแบบวางไม่ลง ท่านเจ้าคุณปู่ได้วางโครงวางแนวไว้ชวนติดตามแทรกเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งวิเคราะห์และวิจารณ์อย่างผู้ทรงภูมิรู้ เมื่อเอาข้อความของผู้ใดมาจะบอกไว้ว่าอ้างอิงจากหนังสือเล่มนั้นและเล่ม นี้ แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้เคารพผู้อื่น ถ้าอ้างถึงคนอื่นว่ากล่าวถ้อยร้อยความอย่างใด ท่านก็จับใจความ มาแต่เฉพาะความจริง ไม่ใช่นำมาตีไข่ใส่น้ำทำให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนและเป็นเท็จ แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความเป็นธรรม จึงรักษายุติธรรมไว้ได้

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 6

เมื่อจารย์บุญจารย์แก้วจะขอเป็นศิษย์ครูเพียกมมะแดง ทั้งสองก็จัดทำขันหมากเบ็งใส่คายขึ้น ขันนี้ทำจากใบกล้วย นำมาตัดและเย็บ ขึ้นเพื่อใส่เครื่องเบญจ์ มีดอกไม้ห้าดอก ธูปห้าดอก เทียนห้าเล่ม ข้าวตอกแตกห้าจอก เงินห้าเหรียญสตางค์แดง ครั้นแล้วเขาก็เย็บซวยเป็นรูปปากกว้างก้นแหลม นำดอกไม้และเทียนเพื่อใช้สักการะคุณครูเหน็บลงไปในซวยนั้น เมื่ออาบน้ำชำระสะสรงสะอาดแล้วจารย์ทั้งสองก็นุ่งผ้า โสร่งผืนใหม่เอาผ้าแพรอีโป้พาดเฉียงบ่า ต่างถือเอาขันหมากเบ็งขึ้นไปกราบครูขอเป็นศิษย์ต่อไป เมื่อครูรับศิษย์แล้วก้มกราบอีกครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 4

อีกวันหนึ่งในปีนี้, มีชายวัยประมาณสี่สิบปีเศษ หน้าตาคมสัน ร่างสันทัด ผิวสีดำแดงแกร่งก้าน ท่าทางมั่นอกมั่นใจในตนเองเป็นอันมาก เว้นแต่

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 3

จารย์บุญเห็นเพื่อนดิ้นรนจนปัญญา จึงได้แต่กล่าวเตือนออกไปว่า... เซื้อซาดจ่อง คันจ่องยังกะหุบ  ซาตาหลุบหลูบลงคือจ้อง ยามเมื่อซาตาขึ้น ขวางเป็นขอนก็ยังล่อง คาดสิล้ม มือหยุ้มหญ้ากะบ่พัง เสี่ยวเอย... จารย์แก้วคิดได้ฉับไวสมกับเป็นผู้สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ก็กล่าวท้าชายฉกรรจ์เหล่านั้นว่า จงมาพิสูจน์กัน ข้าขอท้าสู้กับพวกเอ็ง เพื่อให้เห็นว่าผู้มีสัจจะย่อมไม่ตาย ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 2

“เวียงจันทน์เศร้า สาวเอยอย่าฟ้าวว่า มันสิโป้บาดหล่า บักแตงช้าง หน่วยปลาย เวียงจันทน์เศร้า เป็นโพนหมาขี้จอก บาดว่า บางกอกฮ้าง ยังสิได้เพิ่งเวียง ดอกนาฯ”

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน – บทนำ

“ทวดคือพ่อของปู่” สีโหเอ่ยชื่อบรรพบุรุษ “จารย์บุญคือ ทวดของปู่เฮือง...” “ถูกต้องแล้ว” แกบอกสีโห “ผมคือหลานแท้ ๆ ของจารย์แก้วกับย่าแพง”
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com