Category

ศิลปวัฒนธรรม – ประวัติศาสตร์

ฤกษ์งาม ยามดี : โลกเก่าที่เล่าซํ้าบนโลกใหม่

การแสดงจุดยืนด้วยท้องถิ่นนิยมที่ปรากฏอยู่ทั่วไปในสังคมอีสานปัจจุบัน เช่น การรณรงค์อาหารอีสาน การเที่ยวเมืองอีสาน การรื้อฟื้นประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน ตลอดถึงการฟื้นฟูภูมิปัญญาอีสาน

กลอนบทละคร (๑๕-๑๖)

บทพากย์ นางลอย ยุคอยุธยา เทียบกับพระราชนิพนธ์ ร.2 ขนบการประพันธ์ของไทยโบราณ ผู้ประพันธ์จะถ่อมตน บางเรื่องไม่แถลงนามผู้ประพันธ์ หลายเรื่องที่ลงท้ายเชิญให้ผู้ที่มีความสามารถสูงกว่าช่วยแก้ไขปรับปรุงให้ด้วย

ผู้หญิงแนวหลัง

ผู้หญิงแนวหลังที่ผมขอเอ่ยนามไว้ คือท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ นางนิวาศน์ ศิริขันธ์ นางบังอร ภูริพัฒน์ นางทองคำ ดาวเรือง นางบุญทัน อุดล และ นางแตงอ่อน จันดาวงศ์ ภรรยาของ นายครอง จันดาวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และถูกประหารชีวิตโดยการยิงเป้าที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ผู้หญิงแนวหลังกลุ่มนี้ เป็นผู้หญิงอีสานทั้งหมด ยกเว้นท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ ต้องมีชีวิตที่ต้องต่อสู้ความรู้สึกทั้งภายใน และภายนอก

ปริศนาสุริยะเทพ

ประติมากรรมหินรูปสุริยะเทพ พบไม่มากในอาเซียน และที่พบในไทยและกัมพูชานั้นแตกต่างจากที่พบในชวาชัดเจน สุริยะเทพที่พบในไทยและกัมพูชาส่วนหนึ่งสวมหมวกแขกหรือที่เรียกว่า กีริฎมงกุฎ อีกส่วนหนึ่งสวมหมวกแขกเหลี่ยม บางรูปมีหนวดเครา (เช่นองค์ที่พบ ที่ศรีเทพ) สุริยะเทพสวมหมวกเหลี่ยมนี้ ผู้รู้ท่านว่าเป็นลักษณะพิเศษที่พบในอาเซียน แต่ไม่พบในอินเดีย ส่วนสุริยะเทพสวมหมวกแขกนั้นเป็นอิทธิพลช่างอินเดีย

นิทานประจำถิ่น ปาจิต อรพิม และฉบับเมืองนางรอง [๔]

การเคลื่อนที่ของนิทานประจำถิ่นนั้นเป็นไปตามการเคลื่อนย้ายของคนในท้องถิ่น ชาวโคราช และชาวบุรีรัมย์นั้น ต่างก็เคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปตามเส้นทางการค้าและการเกษตรโดยไม่ได้คำนึงถึงเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างจังหวัด จากสี่กลุ่ม ของชาวบุรีรัมย์ คือ ไทยโคราช ไทยลาว ไทยเขมร และกูย

กลอนบทละคร (๕ – ๖)

กลอนบรรยายพระราชวังกรุงกุเรปัน ในบทละครอิเหนาครั้งกรุงเก่าข้างต้นนี้ ภาพที่บรรยายแท้จริงแล้วก็คือพระราชวังสมัยกรุงศรีอยุธยานั่นเอง เนื้อความตอนนี้จึงมีความหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยครับ การอ่านวรรณคดีนั้น เราจะได้ทั้งความไพเราะชื่นใจของภาษา และความรู้ทางประวัติศาสตร์ สังคมวิทยาด้วย

ชนะคาม – เชียงคาน “พระหด” สิ่งมหัศจรรย์ของอาเซียน

สมัยโบราณนั้นตัวอำเภอเชียงคานกับเมืองสานะคามหรือชนะคามเป็นเมืองเดียวกัน(เมืองอกแตก คือ มีสองฝั่ง ส่วนใหญ่แล้วบริเวณตัวเมืองใหญ่จะอยู่ฝั่งลาว ตัวเมืองเล็กอยู่ฝั่งไทย เช่น “ศรีเชียงใหม่ก็คือส่วนหนึ่งของเมืองเวียงจันโบราณ) เมืองเชียงคานโบราณเป็นเมืองสำคัญอยู่กึ่งกลางระหว่างหลวงพระบางกับเวียงจัน

ประวัติความเป็นมาของเผ่าภูไท ตำนานแรก

เผ่าภูไทนิยมนุ่งผ้าซิ่นหมี่ตีนต่อ เป็นผืนเดียวกันกับผ้าผืนกว้างประมาณ 4-5 นิ้ว ย้อมครมเกือบสีดำ เรียกว่าผ้าดำหรือซิ่นดำ สวมเสื้อแขนกระบอกสามส่วน สำดำขลิบแดง ติดกระดุมเงิน หรือเหรียญสตางค์ หรือกระดุมขาวมาติดเรียงสองแถวห่มด้วยผ้าขิดพื้นเมือง เปลือยไหล่ด้านขวา ห่มด้านซ้ายและมัดชายผ้าสีข้างด้านขวา นิยมสวมสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ข้อเท้า ด้วยโลหะเงิน เกล้าผมเป็นมวยสูงตั้งตรง ใช้ผ้ามนหรือแพรมนทำเป็นผ้าสี่เหลี่ยมเล็กๆ ม้วนผูกมวยผม

Time And Tide : The Undercurrents of Contemporary Lao Art ศิลปะสมัยใหม่ของลาว

ศิลปะของบ้านใกล้เรือนเคียงหรือบ้านพี่เมืองน้องในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เช่นในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความน่าสนใจในตัวเนื้อหาของเรื่องเล่าชีวิต สังคมการเมืองของผู้คนในประเทศผ่านงานศิลปะร่วมสมัยกับศิลปะสมัยใหม่ ทำให้ผู้ศึกษาและชมงานศิลปะของลาวได้เรียนรู้ผ่านผลงานของศิลปินลาวที่นำเสนอไปยังสาธารณะ

ทบทวนความรู้เรื่อง สมณยศ และพิธีหดสรง ในแผ่นดินอีสาน

ในวัฒนธรรมอีสาน – ล้านช้าง มีธรรมเนียมแต่งตั้งสมณยศแก่พระสงฆ์ผู้บวชเข้ามาเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา โดยพิธีกรรมที่เรียกว่า “หดสรง” ขั้นตอนสำคัญของพิธีกรรมคือการรดน้ำผ่าน “รินสรง” ที่ปัจจุบันมักเรียกว่า “ฮางหด” ซึ่งทำจากไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาคอย่างสวยงาม แม้ว่าปัจจุบันการเลื่อนสมณยศของพระสงฆ์ในอีสานในทางปกครอง

“งันขอนผี” ผีสร้างคู่ ฟื้นประเพณี สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง

“แต่ก่อนงานศพไม่เหมือนปัจจุบัน ศพเราจะวางเอาไว้บนตะแค่ไม้หรือไม่ก็วางบนพื้นบ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกันมาก ทำให้การเดินทางแต่ละครั้งนั้นก็จะเกิดความกลัว ไฟฟ้าก็ไม่มี มืดก็มืด มีเพียงตะเกียงเจ้าพายุนำทาง ดังนั้นพวกหนุ่มสาวแต่ก่อนจึงจะจับกลุ่มกันเดินทางไปบ้านงาน พอไปถึงบ้านงานบรรยากาศในงานก็น่ากลัวศพก็ไม่ได้อยู่ในโลงเพราะแต่ก่อนมันไม่มี มันจึงเกิดงันขอนผี และ งันเฮือนดีขึ้นมา”

ซ่างแต้มฮูป อีสาน ล้านนา สู่อารยธรรมสุวรรณภูมิ

ฉบับนี้ศิลปะนำชีวิตจะขอนำท่านผู้อ่านมารู้จักกับช่างวาดชาวอีสานย้ายถิ่นฐานไปอยู่ล้านนาไปตามหาความงามแห่งสุนทรียรสเลาะเลียบประเทศเพื่อนบ้าน เป็นซ่างแต้มฮูปตามภาษาอีสาน หรือภาษาทางนครหลวงเวียงจัน นครหลวงพระบาง หรืออีกหลายแขวง ภาษาก็คือ ๆ คล้าย ๆ อีสานบ้านเฮานี่แหละครับ

ปราชญ์แห่งอินแปงบอกว่า “เมืองไทยเป็นเมืองมั่งคั่งที่สุดในโลก”

“คำพูด คำด่าของเขา มันเป็นการหากินของเขา ไปถ่ายภาพก็ไปถ่ายเอาตรงที่แห้ง ไปถ่ายตรงที่มีคนยากจน แต่จริง ๆ แล้วอีสานคือเมืองสวรรค์ของประเทศไทย ไม่หนาวเกินไป ไม่ร้อนเกินไป น้ำไม่ท่วมเกินไป ซึ่งพอดี พองาม ภาคใต้น้ำท่วมเหนือก็หนาวมาก อีสานเราพอดี มีปัญหาแต่น้อยมาก แต่กลับถูกคนมาบอก อีสานแล้ง เราก็เลยเชื่อเขา แต่จริง ๆ ไม่ได้แล้ง มันแล้งตรงไหน”

ปมด้อย

ระบบการเมือง การปกครองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการศึกษาที่นักเรียนทุกคนต้องฟัง พูด อ่าน และเขียนด้วยภาษาไทย ทำให้ภาษาที่ยิ่งใหญ่อย่างภาษาลาวกลายเป็นภาษาระดับชาวบ้านเท่านั้น ไม่ใช่ภาษาในระดับราชการ แม้แต่ละกลุ่มชาติพันธุ์จะมีภาษาของตนเอง ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต้องอ่อนข้อให้แก่ภาษาไทย จนถึงขั้นอับอายที่จะพูดภาษาของตนเองในท่ามกลางสาธารณชนและกลายเป็นปมด้อยไปในที่สุด

ความยั่งยืนและเป็นธรรม ของการจัดการน้ำขนาดเล็ก

นานเหลือเกินกว่าคนในสังคมแห่งนี้จะคิดขึ้นมาได้บ้างว่า ที่เราสร้างบ้านแปงเมืองกันมาจนเจริญรุ่งเรืองได้ขนาดนี้ การทำนาอย่างเช่นในภาคอีสานนี้ก็ด้วยการทำนาน้ำฝน ด้วยชลประทานขนาดเล็กของชุมชน ทำขึ้นมาด้วยสมองและมือของชาวนาตัวเล็ก ๆ ถึงปัจจุบันก็ยังคิดเป็นร้อยละ ๙๕ ของพื้นที่
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com