คำฉันท์ (4) วรรณลีลามรดกชาติ

เดิมทีกวีไทยมิได้ดัดแปลงฉันท์ในคัมภีร์วุตโตทัยให้เป็นฉันท์ภาษาไทยครบทั้ง ๑๐๘ ชนิด ต่อมานายฉันท์ ขำวิไล เป็นผู้ดัดแปลงเพิ่มเติม เป็นฉันทวรรณพฤติ เพิ่มจากที่ มหาสมณะเจ้า พระปรมานุชิตชิโนรส ทำไว้ ๕๐ ชนิด

บทร้อยกรองของ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ 50-53

๕๒. ศาสตรศิลป์เป็นเงินเป็นทรัพย์ ไปสำหรับกับผู้ตกไกล ปัญญาไวเป็นเงินของฝาก ยามเมื่อยากเกิดเหตุจิบหาย ธรรมทั้งหลายของดีเฮาก่อ เป็นของห่อต่อไว้ยามตาย ศีลทั้งหลายเป็นเงินเป็นแก้ว บ่ฮู่แล้วทุกเมื่อทุกยาม

คําผญา (๔)

ขุนแสนกว้าน ขุนก็คือนักปกครองสมัยก่อน ปกครองบ้านปกครองเมือง กว้านคือบ้านเรือน คือครอบครัว ขุนแสนกว้าน จึงหมายถึงขุนที่ปกครองบ้านเมืองนับแสนครอบครัว แสนครอบครัวรวมกันแล้วอาจจะเป็นเมือง ๆ หนึ่งที่ใหญ่โตพอสมควร

รายการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย – นิตยสารทางอีศาน

นิตยสารทางอีศาน ลึกซึ้งถึงรากเหง้า เข้าใจปัจจุบัน รู้ทันอนาคต รายการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ออกอากาศวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 14:00 น ถึง เวลา 16:00 น ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงพระพุทธศาสนา ศิลปะวัฒนธรรม ชมรมคนมีบุญ FM 97.00 เมกกะเฮิร์ต และ106.75 เมกะเฮิรตซ์ ออกอากาศพร้อมกัน วัดบ้านอ้น ตำบลดงลาน อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินรายการโดย ท่านทรภูไพร วันโพนทอง นายกสมาคมวิชาชีพสื่อวิทยุโทรทัศน์ภาคประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (43) สมุทโฆษคำฉันท์ (31)

หากพบช้างป่าตกมันก็ยิ่งอันตราย พระไอยการช้างจึงกำหนดว่า อนึ่งพระธินั่งเสดจ์เข้าต่อเถื่อน แลเถื่อนมีพาษี พระธินั่งต่ำตา อย่างควาน ควานอย่าให้ขอ อนึ่งจะทรงบาศ แลเถื่อนมีพาสีก็ดี ตรัสเรียกบาศ อย่ายื่น แลไอยการให้ควาน ๆ ทัง ๔ ประการดั่งนี้ ให้ขุนช้างชาวช้างว่าแก่ขุนตำรวจให้เอากราบมูลพระกรรุณาครั้งหนึ่ง...

ทองกวาว/จาน ในมิติทางการแพทย์

ในฤดูฝนและฤดูหนาว ทองกวาวมีใบเขียว ดูกลมกลืนไปกับไม้อื่น ๆ รอบข้าง แต่ในตอนปลายฤดูหนาวต่อต้นฤดูแล้งเมื่อใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลาที่ทองกวาวมีสีสันสวยงามที่สุด โดดเด่นกว่าไม้ต้นอื่น ๆ ข้างเคียง ด้วยดอกสีส้มแดงอย่างที่เรียกว่า สีส้มอินเดีย (Indian orange) เต็มล้นกิ่งที่ปราศจากใบ การเป็นไม้ท้องถิ่นที่มีคนรู้จักดีเช่นนี้ น่าจะหมายถึงการมีคนรู้จักนำเอาส่วนต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายด้วย

กลิ่นข้าว กลิ่นดอกไม้ กลิ่นธูป และกลิ่นปิศาจ

วิทยาศาสตร์มองว่า กลิ่นเป็นสารเคมีที่เมื่อจับกับตัวรับกลิ่น ในส่วนบนของโพรงจมูกแล้ว ส่งสัญญาณไปยังสมอง หลังจากประมวลผลเปรียบเทียบกับกลิ่นและเหตุการณ์ในอดีต กำหนดเป็นการแสดงออกที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับกลิ่นนั้น และยังเชื่อมโยงไปถึงความรู้สึก และอารมณ์อื่น ๆ

ยาพิษแสลงใจ

มนุษย์รู้จักยาพิษ และใช้มันเพื่อปลิดชีพตนเองหรือผู้อื่นมานานนับพันปี ในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการฆาตกรรม ยาพิษมีข้อได้เปรียบคือ ไม่เปิดเผย ไม่ร้องเตือน และอาจไม่ทิ้งร่องรอย การประกอบยาพิษและการวางยาพิษ เป็นศิลปะที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และรอคอยเวลาที่เหมาะสม แต่กว่าเหยื่อจะรู้ตัว ฆาตกรก็เผ่นหนีไปไหนต่อไหนแล้ว หรือไม่ก็แสร้งร้องไห้คร่ำครวญอยู่ข้างศพผู้ตายนั่นเอง

บทกวี ดาวชีวิต

ด้วยมีดาวในชีวิตไม่คิดขม แม้เหงาหงอยเศร้าบ้างบางอารมณ์ ใจยังคมวับเชือดเลือดสาดแดง ดั่งวสันต์ปลอบขวัญฉันฝันหวาน แสนดอกไม้บานประชันออกขันแข่ง เช็ดน้ำตาปวงประชา..มาร่วมแรง หลังพายุกระหน่ำแรง...ฟ้าจักงาม รัตติกาลนานยาวดาวยังฉาย เหมันต์กรายถึงวสันต์วันอร่าม พลังปฏิวัติเกิดทั่วทุกชั่วยาม ดาวชีวิต วาวงามนิรันดร

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (46) สมุทโฆษคำฉันท์ (34)

นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ ที่คำฉันท์เรื่องนี้ปรากฏต้นฉบับตัวเขียนเพียงฉบับเดียวเท่านั้นที่พบในปัจจุบันนี้ เป็นสมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นหรดาล ขนาดกว้าง ๑๑.๒ เซนติเมตร ยาว ๓๔.๕ เซนติเมตร เขียนอักษรสองด้าน รวม ๑๐๔ หน้า ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ส่วนภาษาโบราณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี

“ปลาแดก” นั้นฉันใด

ปลา คือเป็นกับข้าวหลัก หรือเป็นอาหารหลักของคนอีสานมาแต่โบราณกาล ดังจะเห็นได้จาก ปู่ ย่า ตา ทวด สอนลูกสอนหลานว่า ให้กินอาหารหลักเป็นประจำ คือ “กินข้าวเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินปลาเป็นแนวกิน” หมายถึง ให้กินข้าวเป็นหลัก ให้กินผักเป็นยา และให้กินปลาเป็นกับข้าว นี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า ปลา มีความสำคัญต่อการบริโภคอาหารของคนอีสาน

ลานข่วงคำกวี

เมฆา ญายคับฟ้า ​ปานนุ่นทาลานเป็นขุยหยุย ยวงยาว ​​พ่องหนาเนืองกว้างลางเป็น ลอนซอนซั้น เลียนถันแถวหลั่นหลิงเห็น ดารดาษด้าม ​​ดาแต้มแต่งอินทร์

คำผญา (๗)

เอาลูกสะใภ้มาเลี้ยงย่า เหมือนเอาผีห่ามาไว้ในเรือน ความหมาย แม่ย่าหรือแม่ผัวกับลูกสะใภ้เปรียบเสมือน ขมิ้นกับปูน, เสมือนนํ้ากับนํ้ามัน ส่วนมากเข้ากันไม่ได้ ยังดีที่เป็นน้ำ อย่าง้นอยก็ยังมีความเย็นอยู่บ้าง ถ้าเป็นของร้อน แม่ย่ากับลูกสะใภ้อาจจะเปรียบเหมือนหมากับแมวก็ได้

คำผญา (๘)

“งัวบ่กินหญ้าแสนสิข่มก็เขาหัก หมูบ่กินฮำแสนสิตีก็ดังเว่อ” วัวไม่กินหญ้าแม้จะกดเขาลงเขาก็หัก หมูไม่กินรำถึงจะตีจมูกก็แตกบาน
1 2 3 6
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com