รถไฟไปอีศาน
เพลง: รถไฟไปอีศาน วงหมาเก้าหาง
เพลง: รถไฟไปอีศาน
เพลง: รถไฟไปอีศาน
กำเนิด “หมาเก้าหาง” (3) “เทอด ทิทาด” – ธีระศักดิ์ จงจันทร์
“ผมเป็นคนขอนแก่นครับ แต่เกิดกรุงเทพฯ (เขาย้ำบอกว่าเป็น ‘เด็กเทพ’) แล้วพ่อพากลับมาอยู่บ้าน” ผู้ใส่สร้อยชื่อเล่นตัวเองว่า ‘ทิทาด’ มักเริ่มต้นแนะนำประวัติชีวิตของตนเช่นนั้น
กำเนิด“หมาเก้าหาง” (2) “ซัน นันธะชัย” – หัวหน้าวง
เขาออกจากบ้านมาทำหน้าที่หัวหน้าวง“หมาเก้าหาง” ออกตระเวนมอบความสุขให้พี่น้องตามชุมชนหมู่บ้าน รับงานอบรมสร้างวงโปงลาง กลองยาว แคน พิณ ฯลฯ
กำเนิด “หมาเก้าหาง” (1) “อุ้ม” – วิมลรัตน์ สุวมาตร์
เธอฝึกหัดเป่าแคนด้วยตัวเองกับพ่อครูที่บ้านโคกสะอาด อ.นาหว้า จ.นครพนม ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม. 2 และในขณะเป็นนักเเรียนเธอฝันที่จะเป็นคนหนึ่งในรถบัสของวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ ที่วิ่งผ่ากลางหมู่บ้านเธอเพื่อพานักศึกษาไปแสดงยังที่ต่าง ๆ
รื้อถอนและฟื้นสร้าง
สังคมไทยกำลังเดินไปสู่การผูกขาด กระชับอำนาจทุกด้าน โดยทุนภายในประเทศ อภิทุนข้ามชาติ ภายใต้อุดมการณ์อำนาจรัฐโบราณ สภาพเช่นนี้ได้สถาปนาสวรรค์สำหรับอภิสิทธิ์ชนทุกภาคส่วนทุกระดับชั้น
สงครามที่ไม่หลั่งเลือด
โคตรเหง้าของเหล่าปราชญ์ผู้ต่อสู้พลิกโลกได้สรุปไว้นานมาแล้วว่า การเมืองคือ สงครามที่ไม่หลั่งเลือด สงครามคือ การเมืองที่หลั่งเลือด
ปักหลักให้แน่น แก่นต้องมี
ท่ามกลางสังคมแสงสีเมืองใหญ่ ภาคส่วนอุตสาหกรรม ธุรกิจท่องเที่ยวบริการ ฯลฯ ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์และการสื่อสารล้ำสมัย บันดาลให้กิจการการค้าขายเกิดดอกผลกำไรงาม แต่ในภาคส่วนการเกษตร ชีวิตชุมชนคนหมู่บ้านที่เปรียบดั่งกระดูกสันหลังประเทศ กลับไม่อาจหยัดยืนตรงให้คงมั่น ยิ่งนับวันยิ่งไร้หลักไร้แก่น ไร้ความคิดฝันจินตนาการ
ชูอาวุธ – “วัฒนธรรม” ขึ้น
ท่ามกลางความ “เน่าใน” ของทุกระบบสถาบัน ส่งผลให้สังคมไทยเสื่อมทรุดลงทุกด้านช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนยิ่งถีบห่างความต่างทางความคิดของผู้คนไกลกันดั่งฟ้ากับก้นเหว อาวุธที่คนเล็กคนน้อยจะใช้ต่อสู้เพื่อปากท้อง และเทิดศักดิ์ศรีความเป็นคนของตนในห้วงเวลานี้ คือ “งานวัฒนธรรม”
สูงเจิ้นเทิ้น
แดนอีศานที่ราบสูง-สูงเจิ้นเทิ้น อัศจรรย์เกินกล่าวขานประมาณไหน ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์อารยธรรมใด วิวัฒนาการสั่งสมไว้ให้มังมู
งานเปิดอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ บ้านนาจอก นครพนม
ลุงโฮ เดินทางไปทุกทวีปทั่วโลกเพื่อศึกษาหาแนวทางมากู้เอกราช ปลดปล่อยประเทศจากการยึดครองของฝรั่งเศส (หลังจากถูกจีนปกครองมาพันปี) จากนั้นได้เดินทางทางเรือเข้ามาประเทศไทย โดยขึ้นฝั่งที่กรุงเทพฯ แล้วเดินทางไปพิจิตร อุดรธานี นครพนม ฯลฯ กระทั่งข้ามไปฝั่งลาว เพื่อให้การศึกษาและรวบรวมชาวเวียดนามให้มีจิตหนึ่งใจเดียวกัน
หมู่บ้าน มีร่างกาย ภูมิปัญญา และจิตวิญญาณ
เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว เมืองไทยของเราประสบวิกฤตเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตก สาเหตุมาจากยุคโลกาภิวัตน์ ประเทศใหญ่ครอบกินประเทศเล็ก คนเมืองนำทรัพยากรของชาติไปเล่นแร่แปรธาตุ ใช้เงินต่อเงิน จนทำให้ประเทศแทบล้มละลาย ซึ่งในครั้งนั้นเราก็ได้ หมู่บ้าน รองซับรักษาความทุกข์ร้อนของผู้คนพลเมือง
เจาะซอกหาแก่นอีสาน
เริ่มต้นแม้แต่ชื่อเรื่องของบทนี้ก็มีประเด็นให้ซอกหากันแล้ว คือคำว่า อีสาน ซึ่งฟังเผิน ๆ เหมือนจะรู้ ๆ กันอยู่ แต่เมื่อเจาะลึกก็ทำเอาสะอึกและสะดุดคิดทันที อีสาน เป็นชื่อทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ใช่ชื่อชาติพันธุ์วรรณา คำเรียกขานถึงคนที่เกิดอยู่บนที่ราบสูงทางภาคอีสานว่า คนอีสาน หลายคนจึงยังไม่ปลงใจรับ
ทางอีศาน 43 : บทบรรณาธิการ
อุดมการณ์ “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ได้ถูกชูขึ้นให้สูงเด่น เพื่อรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยเข้าด้วยกันมานานมากแล้ว ผ่านการนำเสนอของนักคิด นักปฏิบัติการทางสังคม จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ “๑๔ ตุลา ๒๕๑๖” บางพื้นที่จึงเปิดรับแนวคิด และเพิ่มคำพ่วงท้ายว่า “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน” แต่นั่นก็หาใช่การตกผนึกทางความคิดของผู้ปกครองบ้านเมืองไม่
บทบรรณาธิการ ทางอีศาน 42 : สร้างโลกงาม
น่ายินดีที่วันนี้ วิถีชีวิต อัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ของผู้คนในราชอาณาจักรไทย ได้ปรากฏตัวตนขึ้นเด่นชัด ซึ่งแสดงออกถึงความภาคภูมิและมั่นใจในพลังของตนเอง พร้อมก้าวเดินสู่โลกกว้าง จากข้อมูลของ “ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร” ประเทศของเรามีกลุ่มชนย่อยซึ่งมีชื่อเรียกตนเองอยู่ ๖๒ กลุ่ม มีภาษาถิ่นย่อยถึง ๗๐ ภาษา