นวนิยาย : กาบแก้วบัวบาน (๕)

ข้าไม่มีเวลาได้ท่องเที่ยว ชายชุดขาวพูดด้วยสีหน้าขึงขังจริงจัง “บรรพบุรุษข้าเคยไปทวารวดี และศรีอโยธยา ปู่ข้าท่องลุ่มน้ำบางกอกมาแล้ว พ่อข้าบอกว่า เคยท่องเมืองล้านนา เมืองล้านช้าง แต่พ่อข้าห้ามนักห้ามหนา อย่าท่องเมืองรัตนโกสินทร์” หยุดหายใจ มองจ้องเข้าไปในดวงตาของเหมราชแล้วพูดเสียงหนัก ถ้ากรุงเทพฯ ที่เจ้าพูดถึงเป็นเมืองรัตนโกสินทร์ พ่อข้าห้ามไปเด็ดขาด

‘น้าสนับ’ เพื่อนทุกข์ยามยาก ตอนที่ ๔

แม่หวานก็เหมือนเตี่ยเถ๊า ที่แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมแหล่งอบาย แต่ท่ามกลางกลิ่นคาวกามกลับแฝงและอบอวลด้วยปรัชญา แม่หวานมักพร่ำสอน ‘พี่’ เสมอว่า “พวกมึง คนเขามองว่าต่ำ ต้องทำตัวให้มันดีมึงไม่ได้ขอใครแดก มึงมาเพื่อหาเงินส่งพ่อแม่ เพื่อเลี้ยงครอบครัว ถ้ามึงไม่ทำตัวชั่ว มันไม่ใช่เรื่องชั่วหรอก”

ปรีชา พิณทอง ช่วยมองโลกมองชีวิต

ปรีชา พิณทอง ควรได้รับการยกย่องให้เป็น “บรมครู” หรือ“ปรมาจารย์” ด้วยประวัติและผลงาน ที่ได้สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมด้วยการ “สืบทอด ถอดรหัส พัฒนา” ภูมิปัญญาอีสาน พ่อปรีชา พิณทอง เกิดที่อำเภอเขื่องในจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี ๒๔๕๗ บวชเรียนตั้งแต่ยังเด็ก สอบได้นักธรรมตรี โท เอก ตั้งแต่เป็นสามเณร และสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยครับผิดชอบเกี่ยวกับการศึกษาของสงฆ์ในจังหวัดได้รับสมณศักดิ์เป็น “พระศรีธรรมโสภณ” ก่อนจะลาสิกขาเมื่อปี ๒๕๐๕

รอด พอเพียง มั่นคงยั่งยืน

ประเด็นร่วมของชุมชนชาวนาไม่ว่าที่เวียดนาม พม่าหรือไทยในสังคมเกษตรกรรม คือความอยู่รอดได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยกันของชุมชน หรือที่เรียกสั้น ๆ ก็ได้ว่า “ทุนทางสังคม” ที่แสดงออกทางจารีตประเพณีวิถีชุมชน กฎระเบียบของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งสะท้อนโลกทัศน์ชีวทัศน์ ความเชื่อ ความสัมพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ การอยู่แบบเกื้อกูลไม่เอาเปรียบกัน ไม่เอาเปรียบธรรมชาติ
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com