ตระกูลภาษา “ไท-กะได” กับ ไป่เยวี่ย (๓)
จากการศึกษาวิจัย “ตัวอักษร” บนกระดูกทำนาย (เจี๋ยกู่เหวิน 甲骨文 ) ทำให้ทราบว่า ในยุคราชวงศ์ซาง 商 ซึ่งระบบตัวอักษรภาษาจีนเริ่มจะพัฒนาเจริญสุกงอมแล้ว ชื่อ “เยวี่ย” เป็นชื่อของกลุ่มชนที่มีความแตกต่างจากคนของราชวงศ์ซาง แต่นั่นก็มิใช่เรื่องที่จะนำมาอ้างอิงอธิบายได้ว่า กลุ่มคนเยวี่ยเพิ่งจะมีกำเนิดเกิดขึ้นในยุคนั้น (สามพันปีมาแล้ว) เพราะกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า “เยวี่ย” นั้น ควรจะมีอยู่นานแล้ว ก่อนที่จะเกิดตัวอักษรขึ้น มิใช่ว่าผู้คนกับตัวอักษรคำว่า “เยวี่ย” จะกำเนิดขึ้นพร้อมกัน
หินช้างสี
โต่งโหม่ง คงเขิบตั้ง ฐานทั่งลงดิน
นี้แม่น มหาหิน เหงี่ยงเอียงบังฮ้อน
ซ้างป่า มาหมายซ้น ซอนหลังสีฮะ
เอาขี้ตม แปดแต้ม เป็นปื้นป่ามฮอย
(๑๒) “เชิญลงเยอ เชิญเจ้าลงเยอ… เชิญนางแต่งฮูปี่ฮูแคน ลูกสะแนนให้ดังถูกต้อง”
ในบทนี้ จะชี้ให้เห็นว่า บรรพสตรีไท-ลาว แต่ดั้งเดิมมีความสำคัญเพียงใดในศิลปะดนตรี
อาทิเช่น การเป็น “ครูช่างแคน” และการเป็นผู้นำในนาฏพิธีต่าง ๆ เช่น “หมอลำผีฟ้า”
ความพยายามนี้มิได้ประสงค์จะโน้มนำไปสู่แนวทัศนะแบบ Liberal Feminism
จดหมายจากนักอ่าน
วันอังคาร ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ เรียน ท่านบรรณาธิการ นิตยสารทา...Read More
วัดริมทะเล วิหารบนหินผา และหัวใจในอากาศ
โลกมีเพียงใบเดียว มนุษย์กำเนิดจากรากเหง้าเผ่าพันธุ์เดียวกัน
หากเมื่อแผ่นดินถูกขีดเส้นแบ่ง สำนึกถูกครอบงำด้วยอวิชชาและความโลภ
นับจากนั้นมา... โลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“หนังสือติดดาว” : ด้ำ แถน กำเนิดรัฐไท
เราอาจคุ้นเคยกับคำว่า ผีแถน หรือแถน กระทั่งต้อง เคยอ่านผ่านตากับชื่อ รัฐไท-ไต อย่างแน่นอน แต่ หากไม่ใช่ผู้สนใจในเรื่องมานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ และภาษาศาสตร์แล้ว คำว่า ด้ำนับว่าน้อยคนนัก ที่จะรู้จัก และมีความสัมพันธ์เช่นไรกับคำว่า แถน และรัฐไท