วันที่เพื่อนร่วมรุ่นกำลังเข้าพิธีรับปริญญาใน กทม. เขานั่งรถกระบะจากบ้านดงสารกับพ่อแม่เข้าตัวอำเภอเซกา (จ.บึงกาฬ) เพื่อซื้อข้าวของเครื่องกินใช้ ระหว่างนั้น แทนการอธิบายว่าทำไมไม่ไปรับปริญญา เขามอบเงินสดจำนวนหนึ่งหมื่นบาทให้พ่อแม่ เงินออมจากน้ำพักน้ำแรงที่เขาทำงานยามว่างจากการเรียน ด้วยรู้ว่าครอบครัวแบกภาระหนี้สินอยู่ไม่น้อย
ตกค่ำนั้น พ่อแม่ญาติพี่น้องพร้อมหน้าร่วมพาข้าว รับรู้ว่าลูกหลานที่ชื่อเล่น “ซัน” ชื่อจริง ปรัชญา นันธะชัย ในวงงานศิลปินเอ่ยนามเขาว่า “ซัน นันธะชัย” นี้ เรียนจบขั้นปริญญาแล้ว
“ซัน นันธะชัย” คนหัวดี มีสัมมาคารวะ มีภาวะผู้นำ มุ่งมั่นจริงจังในการเรียน รู้คิดประดิษฐ์สร้างสรรค์ ดีดสีตีเป่าอุปกรณ์ดนตรีได้ทุกชนิด รักพวกพ้องน้องนุ่ง กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ยามกลับบ้านทำงานทุกอย่าง เลี้ยงสัตว์ กรีดยาง
ขณะเรียนที่กาฬสินธุ์เขาเป็นไอดอลของรุ่นน้องทุกชั้นปี เมื่อครั้งโอนย้ายไปเรียนเชียงใหม่ก็รวมกลุ่มเพื่อนมิตรภาคเหนือได้มาก ยามลาจากสามารถระดมสรรพกำลังจัดมินิคอนเสิร์ตขึ้นได้
วันนี้ แทนการสมัครรับจ้างทำงานบริษัทห้างร้าน หรือสอบบรรจุรับราชการ เขาออกจากบ้านมาทำหน้าที่หัวหน้าวง“หมาเก้าหาง” ออกตระเวนมอบความสุขให้พี่น้องตามชุมชนหมู่บ้าน รับงานอบรมสร้างวงโปงลาง กลองยาว แคน พิณ ฯลฯ รับงานแสดงส่วนตัวบ้าง ช่วยงานกิจกรรมกิจการพี่น้อง ที่บ้านยังมีสำนักเรียนบ้านนอก โดยรวมกลุ่มกันฝึกหัดเล่นดนตรี มากกว่านั้นได้แก่การอ่านเขียน เวลาเขาไม่อยู่เด็ก ๆ ก็แบ่งงานทำกิจกรรมกันเอง สื่อสาร ส่งผลงานและสั่งงานกันทางสื่อสมัยใหม่
ผลงานเหล่านี้ค่อย ๆ สำแดงตัวตนคนทำงานเพื่อสังคมให้พี่น้องชาวบ้านรับทราบรับรู้ และที่ต้องยอมรับด้วยดุษฎีได้แก่เขานำคณะรับเชิญไปออกรายการหมอลำฝังเพชร
สำคัญมากกกว่านั้น “ซัน นันธะชัย” มีภารกิจร่วมกับศิลปินผู้มีเลือดเนื้อจิตวิญญาณแห่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำโขง สร้างงานและถ่ายทอดอัตลักษณ์แห่งชาติพันธุ์วรรณนาให้เแพร่หลาย นำศิลปวัฒนธรรมไปสร้างพลังชีวิตให้พี่น้องประชาชนคนหมู่บ้าน และยกระดับสู่ความเป็นสากล