“ผมเป็นคนขอนแก่นครับ แต่เกิดกรุงเทพฯ (เขาย้ำบอกว่าเป็น ‘เด็กเทพ’) แล้วพ่อพากลับมาอยู่บ้าน” ผู้ใส่สร้อยชื่อเล่นตัวเองว่า ‘ทิทาด’ มักเริ่มต้นแนะนำประวัติชีวิตของตนเช่นนั้น
ชีวิตเขาจึงเติบโตผูกพันกับปู่ย่า และญาติที่บ้านหนองกระแหล่ง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ส่วนพ่อแม่แยกย้ายกันทำมาหากินไกลถิ่น
“ความทรงจำในวัยเด็กของผม ผู้เฒ่าผู้ชายตีกลองยาว ผู้หญิงกะฟ้อน เด็กน้อยจังผมกะเบิ่งผู้เฒ่าเป็นไอดอล อยากเฮียนอยากหัด กะจังอยากขวยขวายหาความรู้” ประกายความรักในศิลปะการแสดงพื้นบ้านผลักรุนเขาเรียนต่อจนถึงวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์
ในวัยเด็ก ‘เทอด’ ขยันหาอยู่หากินเช่นใด เมื่อเติบใหญ่เขาก็เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่เรียนชั้นปีที่ 1 เขาก็รับงานออกแสดงกับคณะหมอลำ รับเป่าแคน ฝึกลำและฝึกแสดงบทบาทต่าง ๆ จนรอบจัด แก่กล้า
ระหว่างเรียนเขาติดตาม “ซัน นันธะชัย” เป็นระยะ แม้ตอนรุ่นพี่ที่เขานิยมศรัทธาขอโอนย้ายไปเรียนเชียงใหม่ เขาได้ขอเงินปู่ติดกระเป๋า 20 บาทนั่งรถประจำทางจากขอนแก่นตามไปอยู่ด้วยหนึ่งเทอม
ในการประกอบส่วนขึ้นเป็นคณะ“หมาเก้าหาง” ‘เทอด’รับบทหนักด้านเพอร์คัชชั่น – ตี เขย่า เกลา เขี่ย ฯลฯ นอกจากนั้นยังร่วมโชว์แคนสามเต้า ร้องเพลง ร้องหมอลำได้ทุกสังวาส ต่อเติมรับมุขกับหัวหน้าวงได้สนุกสนานไหลลื่น อีกบทบาทที่เก่งกาจหลังฉากคือ เขารู้รอบเรื่องอุปกรณ์เครื่องเสียง ถ่ายภาพ ตัดต่อแต่งทำคลิปวิดีโอ
ในเรื่องที่เขาเป็นคนเจ้าเนื้อ อ้วนท้วมสมบูรณ์นั้นก็สมควรยิ่งแล้ว ด้วยความสามารถพิเศษที่สมาชิกทั้งคณะต้องยกหน้าที่ให้ คือ การจ่ายตลาด และปรุงอาหาร วันใดมีเงินกองกลางมากพอไม่ต้องซดบะหมี่สำเร็จรูป อยากกินอะไรบอกเทอด ‘เทอด’จะบิดมอเตอร์ไซค์ไปหิ้วมา แล้วเขาจะนั่งข้างเขียง หน้าเตาไฟ หันซอยไปด้วยสั่งการให้น้อง ๆ ช่วยหยิบจับนั่นนี่ไปด้วย สักพักก็แซบตะลุมบอน
จาก ‘เทอด ทิทาด’ วันก่อน วันนี้ขอพ่อแม่พี่น้องได้ติดตามให้กำลังใจให้การสนับสนุน – ธีระศักดิ์ จงจันทร์ ครูฝึกสอนชั้นปี 5 ในฉายา ‘เทอด หมาเก้าหาง’ บนทุกเวทีการแสดงด้วยครับ