ข้าว มะพร้าว กัญชา

คนไทยถูกฝรั่งหลอกมาหลายปีอย่างน้อย ๓ เรื่อง คือ ข้าว มะพร้าว กัญชา ที่หลอกได้เพราะเขาครอบงำความคิดคนไทยมานาน ด้วยอิทธิพลของ “อารยธรรมตะวันตก” ที่แพร่เข้ามาสู่ตะวันออกและเมืองไทยหลายร้อยปีที่ผ่านมา

อาวุธสำคัญที่ฝรั่งครอบงำไทยไม่ได้มีแต่ยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า ทันสมัยกว่า แต่เขาอาศัย “ความรู้” และ “เทคโนโลยี” ที่มีมากกว่าก้าวหน้ากว่า

ในปี ๒๕๐๓ รัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยการสนับสนุนของมูลนิธิฟอร์ดและมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ได้ก่อตั้งสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI : International Rice Research Institute) ได้พัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลมากกว่าพันธุ์เดิม อ้างว่าที่ฟิลิปปินส์ได้ผลเป็นสองเท่า เหลือกินจนส่งออกได้

ฝรั่งมาเสนอรัฐบาลไทยในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ว่า ตอนนี้โลกเขาปฏิวัติเขียวกันแล้ว พร้อมกับเสนอข้าวพันธุ์ใหม่ให้ไทย เพราะไทยมีพื้นที่ทำนามาก ปลูกเหลือกินก็ส่งออก มีเงินมาพัฒนาประเทศ ข้าวพื้นเมืองไทยฝรั่งบอกว่าให้ผลผลิตน้อย และส่งออกไปคนต่างชาติก็ไม่นิยม แข็ง ไม่ถูกปาก

ฝรั่งให้ข้อมูลทางวิชาการพร้อมกับข้อมูลจากผลการทดลองที่ฟิลิปปินส์เป็น “ข้อเสนอที่ไทยไม่อาจปฏิเสธได้” แต่ฝรั่งคงพูดความจริงเพียงครึ่งเดียวว่า ไม่ได้บอกว่าจะต้องใช้ปุ๋ยและยามากน้อยเพียงใด

นั่นคือที่มาของการเปลี่ยนจากการปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมืองของไทยที่เคยปลูกกันเป็นพันพันธุ์ ลดลงมาเหลือไม่ถึงร้อย เพราะ “ความทันสมัยที่ไม่พัฒนา” ทำให้ชาวนาก็ยังยากจนมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งจนและเจ็บ เพราะนอกจากหนี้สินรุงรังแล้วยังป่วยด้วยสารพิษในร่างกาย

วันนี้คนไทยหายโง่ เลิกเชื่อฝรั่งอย่างน้อยในเรื่องข้าว เพราะมีงานวิจัยของไทยเองและทั่วโลกที่พบว่า ข้าวไทยดีที่สุด และไม่ได้เป็นแค่อาหาร แต่เป็นยาด้วย อย่างข้าวสังข์หยด ข้าวหอมมะลิแดง สินเหล็ก ข้าวเล้าแตก ข้าวลืมผัวและอื่น ๆ เป็นร้อยเป็นพัน ทั้งดั้งเดิมและผสมไปมาเป็นอะไรใหม่อย่างไรซ์เบอรี

ข้าวท้องถิ่นไทยมีสารอาหารมาก มีวิตามินอีสูง กินแล้วเป็นหนุ่มเป็นสาวนาน ไม่แก่ง่ายตายยาก มีเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เจ็บป่วย ทำให้เป็นมะเร็ง มีธาตุทองแดงเหล็กสูง ข้าวก่ำเปลือกดำมีสารลูทีนสูงกว่าข้าวธรรมดาถึง ๒๕ เท่า ลูทีนบำรุงตา ป้องกันต้อกระจก

วันนี้ถึงไม่แปลกที่มีข้าวพื้นเมือง โดยเฉพาะข้าวกล้อง ข้าวกล้องงอก ข้าวอินทรีย์ ที่ขายในห้างกิโลละ ๑๕๐-๒๐๐ บาท

แต่กระนั้น เพราะถูกครอบงำมานานชาวนาจำนวนมากก็ยังไม่สามารถออกจากวงจรอุบาทว์ของปัญหาหนี้สินและความยากจน ทั้ง ๆ ที่มีดิน มีพันธุ์ข้าวพื้นเมืองดี ๆ คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะ “ปลดแอก” และ “ปลดปล่อย” จากภาวะของความเป็นทาสยุคใหม่นี้ได้

เรื่องมะพร้าวเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการถูกฝรั่งหลอก เขาอ้างงานวิจัยมาหลายสิบปีก่อนว่า น้ำมันมะพร้าวเป็นอันตราย ทำให้เกิดโรคหัวใจ ไขมันสูง เป็นไขมันประเภทอิ่มตัว ทำให้เส้นเลือดตีบตัน (อยากรู้ว่าอิ่มตัวหรือไม่ก็เอาน้ำมันใส่ตู้เย็น ถ้าจับกันแข็งแปลว่าใช่)

คนไทยเชื่อฝรั่งเพราะเขาอ้างงานวิจัย โดยเฉพาะจากมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของโลกและเห็นว่า หน้าหนาวไขมันสัตว์ น้ำมันมะพร้าวทิ้งไว้ข้างนอกยังแข็งตัวเลย เข้าไปในร่างกายคงทำให้เส้นเลือดตีบตันอย่างที่ฝรั่งบอก ก็เลยเลิกใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู หันไปซื้อน้ำมันพืชน้ำมันถั่วเหลือง

เข้าทางฝรั่งพอดี เพราะเขาอยากขายน้ำมันพืช น้ำมันถั่วเหลือง แต่ไม่นานประเทศในเอเชียและในทวีปอื่น ๆ ที่กินมะพร้าว ใช้กะทิ น้ำมันมะพร้าวประกอบอาหาร ก็ได้พบความจริงจากงานวิจัยว่า ประเทศที่มีมะพร้าวมากและบริโภคมะพร้าวมีอัตราการเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกที่ใช้น้ำมันพืช

ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยมากมายพบว่ามะพร้าวมีสรรพคุณไม่เป็นแต่เพียงอาหารที่มีคุณภาพสูง แต่เป็นยา โดยเฉพาะน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่กลายเป็น “ยาผีบอก” รักษาได้สารพัดโรค จนวันนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศตะวันตก

ยิ่งปัจจุบัน บรรดานักร้องดาราดัง ๆ ที่อเมริกา พากันกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น คนก็ยิ่งเห่อจนผลิตกันไม่ทัน ทั้ง ๆ ที่ราคาก็ไม่ใช่ว่าจะถูก

ไม่นานมานี้ บีบีซีได้ทำการทดลองโดยคณะแพทย์เปรียบเทียบให้คนสามกลุ่มบริโภคเนย น้ำมันมะกอก และน้ำมันมะพร้าว เพื่อดูเรื่องสุขภาพ เรื่องไขมันในเลือดอย่างคลอเลสเตอรอลปรากฏว่า กลุ่มที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวผลออกมาดีกว่าอีก ๒ กลุ่ม

แต่นักวิจัยเหล่านี้ก็บอกว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าน้ำมันมะพร้าวดีที่สุด เพราะมีการวิจัยน้อยเกินไป ทั้ง ๆ มีงานวิจัยมากมายทั่วโลกเพื่อยืนยันเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว

มะพร้าวเป็นผลไม้จากสวรรค์ ทั้งน้ำทั้งเนื้อข้อมูลทางการแพทย์บอกว่า มะพร้าวมีวิตามินซีโปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยบำรุงผิวกินแล้วผิวพรรณผ่องใส ไม่เหี่ยวย่น บำรุงกระดูกลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจรักษาอัลไซเมอร์ เป็นเกลือแร่จากธรรมชาติ ดับกระหายคลายร้อน ลดภาวะขาดน้ำ ปรับความสมดุลน้ำตาลในร่างกาย ช่วยกระเพาะปัสสาวะทำงานดีขึ้น

ส่วนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนั้นมีสรรพคุณมากมาย ที่มาจากทั้งงานวิจัยของประเทศต่าง ๆ และของไทยเอง ซึ่งยืนยันว่ามีคุณค่าด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันและรักษาโรคหลายอย่าง ตั้งแต่ส่งเสริมความงาม ผิวพรรณเต่งตึงไปจนถึงรักษามะเร็งและโรคร้ายต่าง ๆ

เรื่องกัญชากำลังเป็นเรื่องใหญ่ในโลกวันนี้ฮือฮากันมากเมื่ออธิบดีกรมการแพทย์ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ไทยเราถูกฝรั่งหลอกมานานเรื่องกัญชา ซึ่งถูกจัดเข้าประเภทยาเสพติด ทั้ง ๆ ที่กัญชามีอันตรายน้อยกว่าเหล้าและบุหรี่ และไม่ใช่ยาเสพติด แท้ที่จริงกัญชาเป็น “สมุนไพร” ชั้นยอดที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้อย่างน่าพิศวงตั้งแต่โบราณมา ปัจจุบัน วงการแพทย์ทั่วโลกใช้กัญชารักษาโรคมากมายรวมไปถึงมะเร็ง

วันนี้ มลรัฐ ๙ แห่งในสหรัฐอเมริกาประกาศให้กัญชาสามารถซื้อหาเพื่อ “ความบันเทิง” ได้ ไม่ใช่เพียงเพื่อเป็นยาเหมือนแต่ก่อนอีกหลาย ๆ รัฐกำลังเดินตาม รวมทั้งหลายประเทศในโลก แม้จำนวนมากจะยังลังเลและมีกระบวนการทางกฎหมายอีกไม่น้อย

ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียก็ประกาศเป็นผู้ส่งออกกัญชารายใหญ่สุดของโลกไปแล้ว เพราะภาคเหนือของประเทศนี้สามารถปลูกพืชเมืองร้อนอย่างกัญชาได้ดีไม่แพ้ประเทศไทย

ประเทศไทยยังไม่ให้ความสำคัญกับผลงานวิจัยทั่วโลกเรื่องกัญชา ยังเอา “ความรู้สึก” เดิม ๆ ที่ถูกฝรั่งครอบงำมาวัด ขณะที่ฝรั่งเปลี่ยนทัศนคติและกำลังกอบโกยผลประโยชน์จากกัญชา คนไทยยังกอดคัมภีร์ที่ฝรั่งเคยเขียนไว้เกี่ยวกับอันตรายของกัญชา เขาเขียนคัมภีร์ใหม่แต่คนไทยไม่อยากอ่าน

ที่จริง ชาวบ้านจำนวนมากยังปลูกกัญชาเพื่อการบริโภคในครัวเรือนอย่างเงียบ ๆ เอาไว้ใส่แกงใส่อาหารให้มีรสชาติดี ดีกว่าผงชูรสที่เป็นอันตราย

ลองประกาศเปิดเสรีกัญชา ทายดูก็ได้ว่าธุรกิจอะไรจะได้รับผลกระทบ นอกจากผงชูรสและบุหรี่แล้ว ยังมีบริษัทยาที่มีผลประโยชน์มหาศาล พวกนี้เป็นเงาอยู่หลังอำนาจทางการเมือง คงไม่ยอมแน่ ๆ

จึงไม่แปลกที่รัฐทำเป็นไม่เข้าใจคุณค่าของกัญชา ซึ่งเป็นยา กลับผลิตบุหรี่ขายเอง อนุญาตให้นายทุนผลิตเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มอมเมาประชาชน แพทยสภา บริษัทยาก็ยังยืนยันกัญชาคือยาเสพติด

เราประชาชนคนไทยต้องเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะ ไม่ปล่อยให้ผู้นำประเทศใช้แต่อำนาจและเงินกำหนดนโยบายเอาผลประโยชน์เป็นหลัก ไม่สนใจข้อมูล ความรู้ และประโยชน์ของประชาชน อย่างที่เห็นจากกรณีข้าว มะพร้าว และกัญชา

******

คอลัมน์ อะคาเดมีชีวิต  นิตยสารทางอีศาน ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๗๑ | มีนาคม ๒๕๖๑

.
ราคาเล่มละ ๑๐๐ บาท
สมัครสมาชิก ครึ่งปี ๖๐๐ บาท
หนึ่งปี ๑,๑๐๐ บาท
ตลอดชีพ ๙,๕๐๐ บาท (ได้รับหนังสือย้อนหลัง)
.
สั่งซื้อ// ชำระเงิน // สอบถามเพิ่มเติม ได้ทาง
inbox หนังสืออีศาน m.me/166200246799901
line id : @chonniyom (มี@) คลิก https://lin.ee/amxqtvW
อีบุค ที่ www.mebmarket.com
โทร. 086-378-2516
บริษัท ทางอีศาน จำกัด
244/539 รามอินทราซอย 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 10220

Related Posts

สงสารเมีย
ปีที่สร้างพระธาตุพนมในตำนานอุรังคธาตุ
วัฒนธรรมแถน (๓)
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com