# จากกำเนิดสู่จุดจบของมนุษยชาติ (2) โดย…“เสรี พพ”

ฮารารีกับเอไอ

นอกจากในหนังสือเล่มที่ 2-3 ฮารารีได้เพิ่มเติมมุมมองเกี่ยวกับเอไอและวิวัฒนาการ ไปจนถึงอนาคตหรือจุดจบของมนุษยชาติ ในการให้สัมภาษณ์และบทความอื่น ๆ ในระยะสองสามปีหลังนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้อ่านอยากทราบจากนักคิด นักเขียน นักประวัติศาสตร์รอบด้านคนนี้

หนังสือเล่มที่ 3 ของเขาออกมาเมื่อปี 2018 ก่อนที่โลกจะได้รู้จักโฉมหน้าเอไอใหม่อย่าง ChatGPT รุ่นแพร่หลายสุดในปี 2023 ฮารารีมีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับเอไอและผลกระทบต่อมนุษย์

เขามองว่าเอไอเป็นพลังที่เปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งสามารถกำหนดอนาคตของการเมือง เศรษฐกิจ และอัตลักษณ์ของมนุษย์ ความกังวลของเขาคือ การเปลี่ยนแปลงอำนาจ การควบคุมข้อมูล และความเป็นอิสระของมนุษย์

1. เอไอเป็นพลังอำนาจใหม่ที่ควบคุมโลก เขาเชื่อว่าเอไอจะทำให้อำนาจเปลี่ยนมือจากบุคคลและสังคมไปสู่ชนชั้นนำที่ควบคุมเอไอ ที่สามารถตัดสินใจโดยไม่ต้องพึ่งพาความเข้าใจของมนุษย์ เพราะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและรับรู้รูปแบบได้ดีกว่ามนุษย์ ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลและบริษัทที่ใช้เอไอ อาจควบคุมชีวิตของผู้คนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาเตือนว่า “หากเอไอเข้าใจเราดีกว่าที่เรารู้จักตัวเอง อำนาจการตัดสินใจจะเปลี่ยนจากมนุษย์ไปสู่อัลกอริทึม”

2. เอไอกับเจตจำนงเสรี (free will) เขาเชื่อว่าเอไอและบิ๊กดาต้าจะทำให้มนุษย์ถูกแฮ็ก (Hackable Humans) โดยเอไอ สามารถวิเคราะห์พฤติกรรม อารมณ์ ความต้องการ และจุดอ่อน ของเราได้อย่างแม่นยำ โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มดิจิทัลใช้เอไอเพื่อแนะนำเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของเรา เขาจึงเตือนว่า มนุษย์อาจเสียเจตจำนงเสรีไปโดยไม่รู้ตัว อย่างคำถามของเขาที่ว่า “เมื่อเอไอรู้รสนิยมทางเพศ มุมมองทางการเมือง และความกลัวของคุณ ก่อนที่คุณจะรู้ตัวเอง คุณยังมีเสรีภาพเหลืออยู่หรือไม่”

3. ผลกระทบของเอไอต่อเศรษฐกิจและการจ้างงาน เอไอและระบบอัตโนมัติอาจแทนที่ ไม่ใช่แค่แรงงานใช้มือ แต่รวมถึงงานวิชาชีพและงานสร้างสรรค์ เขาคาดการณ์ว่ามนุษย์จำนวนมากอาจกลายเป็น “ชนชั้นที่ไร้ประโยชน์” (Useless Class) ความเหลื่อมล้ำอาจเพิ่มขึ้น ชนชั้นนำที่ควบคุมจะมีพลังเหนือกว่าคนทั่วไป เขาจึงเตือนว่า “เอไออาจสร้างโลกที่บางคนถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยไม่มีงานทำและไม่มีอำนาจใด ๆ”

4. เอไอกับการเมืองและสงคราม เอไออาจทำลายประชาธิปไตย เพราะสามารถใช้เพื่อตรวจสอบประชาชน ปล่อยข่าวปลอมและควบคุมสังคม อาวุธอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยเอไออาจเปลี่ยนรูปแบบสงคราม ทำให้ประเทศสามารถทำสงครามได้ง่ายขึ้น ใครที่ควบคุมเอไอได้ ก็สามารถควบคุมโลกได้ เขาจึงตั้งคำถามว่า “อนาคตเป็นของเอไอหรือของมนุษย์ ใครกันแน่ที่ควบคุมใคร”

5. ทางเลือกของมนุษย์ในยุคเอไอ ฮารารีเสนอว่า มนุษย์ต้องปรับตัวให้เร็วขึ้น เราต้องพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการปรับตัว การศึกษาควรสอนให้มนุษย์เข้าใจเอไอ และรู้ทันและควบคุมมัน เขาแนะนำให้ฝึกสมาธิและการรู้เท่าทันอารมณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกชักนำโดยเอไอ

# เอไอกับเจตจำนงเสรี (free will)

1. มนุษย์กำลังถูก “แฮ็ก” เอไอและบิ๊กดาต้าสามารถเข้าใจอารมณ์ ความต้องการ และพฤติกรรมของมนุษย์ได้ลึกซึ้ง แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Google และ TikTok ใช้เอไอเพื่อดึงดูดความสนใจและโน้มน้าวการตัดสินใจของเรา เมื่อเอไอสามารถทำนายและควบคุมการกระทำของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ฮารารีจึงเตือนว่า “เมื่อเอไอรู้จักเราดีกว่าที่เรารู้จักตัวเอง มันอาจตัดสินใจแทนเรา”

2. เอไอสามารถกำหนดความคิดของเรา เขาเชื่อว่าปัจจุบันเอไอได้เข้ามาควบคุมชีวิตมนุษย์มากขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเสนอข่าว เขียนบทความ และทำโฆษณาที่โน้มน้าวความเชื่อ อารมณ์ความรู้สึกของเรา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสามารถชักจูงการเลือกตั้งและความคิดเห็นทางการเมืองได้ เขาคาดว่าเอไออาจไปไกลถึงการอ่านอารมณ์ของมนุษย์แบบเรียลไทม์ และเปลี่ยนการตัดสินใจของเราแม้ก่อนที่เราจะรู้ตัว เขาจึงตั้งคำถามว่า “ถ้าเอไอแสดงข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมจนสามารถเปลี่ยนใจคุณได้ คุณยังเป็นเจ้าของความคิดของตัวเองหรือไม่”

3. อนาคตของสังคมเมื่อเจตจำนงเสรีหายไป หากเอไอควบคุมการตัดสินใจของมนุษย์มากขึ้น ฮารารีเชื่อว่าประชาธิปไตยอาจล่มสลาย เพราะผู้มีอำนาจสามารถใช้เอไอควบคุมสังคม เศรษฐกิจอาจแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คนที่ใช้เอไอเพื่อเพิ่มอำนาจ และคนที่ถูกเอไอควบคุม มนุษย์อาจสูญเสียอิสรภาพทางความคิด และเชื่อเอไอโดยไม่ตั้งคำถาม เขาจึงเตือนว่า “ถ้าผู้คนมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเอไอแล้วใครกันแน่ที่เป็นเจ้านายของใคร”

4. วิธีปกป้องเสรีภาพในยุคเอไอ ฮารารีเสนอแนวทางป้องกันไม่ให้เอไอควบคุมมนุษย์ โดยรัฐบาลควรออกกฎหมายป้องกันการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคล พัฒนาความรู้เท่าทันเอไอ ให้ผู้คนเข้าใจว่าเอไอมีอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขาอย่างไร เน้นการศึกษาและการคิดวิเคราะห์ ระบบการศึกษาต้องสอนให้คนตั้งคำถามและไม่เชื่ออย่างไร้เหตุผล ฝึกสมาธิและการตื่นตัว ฮารารีแนะนำให้ฝึกวิปัสสนา เพื่อสังเกตความคิดของตนเองและป้องกันการถูกชักจูง

ข้อสรุป ฮารารีไม่ได้บอกว่าเอไอจะ “กดขี่” มนุษย์โดยตรง แต่เขาเตือนว่าเอไอกำลังเปิดเผยว่ามนุษย์อาจไม่เคยมีเสรีภาพจริง ๆ ตั้งแต่แรก หากเราไม่ตระหนักรู้ เราอาจกลายเป็นเพียงเครื่องมือของเอไอที่ทำงานให้กับอำนาจที่ควบคุมมันอยู่

คำถามของฮารีส่งท้ายคือ “เอไอจะเป็นเครื่องมือของมนุษย์ หรือมนุษย์จะกลายเป็นเครื่องมือของเอไอ”14 ก.พ. 2025

*พรุ่งนี้อ่าน โนม ชอมสกี นักปรัชญาอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค อายุ 96 ปีแล้วยังวิจารณ์เอไอและนายทรัมป์อย่างดุเดือด วิพากษ์และต่อต้านสงครามเวียดนามมาจนถึงยูเครน นักปรัชญาภาษาศาสตร์ อาจารย์ MIT ตั้งแต่ปี 1955 (70 ปีแล้ว และยัง active อยู่).

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com