ณ ดินแดนนอกฟ้าป่าหิมพานต์ เป็นตำนานของต้นไม้, บ้านของเขาอยู่ในที่เก่าแก่ของปู่ย่าตายายเป็นหย่อมดงไม้ของชนบท, หลังบ้านมีต้นไม้เก่าโบราณสูงใหญ่คล้ายยางนา ลำต้นสีเทาแตกระแหงเป็นร่องสีดำแดงสวยงามแวววาวราวเทพเจ้าสลัก ใบสีเขียวสดเป็นมันแผ่ประสานบนยอดสูง บางครั้งถูกแดดจะมีประกายสีทอง
ต้นไม้นี้ทุกปีมีลูกสุกร่วงลงมา สีแดงสด มีกลิ่นหอม รสหวานอร่อย แต่ระยะน้อยเก็บไว้ไม่นานสองสามวันก็เสีย
ทุกปีมีฝูงนกมากินผลไม้นี้ ตัวสีเขียวสดหางแดงสด พอหมดหน้าผลไม้ก็หายไป ปู่ย่าตายายไม่สนใจเพราะเป็นธรรมชาติ
สมัยนี้นักวิทยาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์พากันมาศึกษาหาสายพันธุ์แต่ไม่ได้รู้อะไร ไร้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ – เป็นความว่างเปล่าทางวิชาการ นักวิทยาศาสตร์เขาก้าวข้ามจินตนาการไปชะงักงันอยู่ที่เหตุผล
ชาวบ้านทำน้ำหมักจากผลไม้ทิพย์นี้ มีรสดีกลิ่นหอมดังน้ำอมฤตของเทวดาที่กลั่นมาจากเกษียรสมุทร หยุดโลภจริตของมนุษย์ ที่สุดของความพอเพียง
คนโบราณเล่าว่าต้นไม้ในโลกนี้แตกกอสืบหน่อมาจากหิมพานต์มีมาแต่โบราณกาล เดิมทีโลกนี้แผ่นดินนี้แยกตัวออกมาจากนอกฟ้าป่าหิมพานต์ ติดพืชพันธุ์ต้นไม้ล้ำค่า ต่อมาคนพากันตัดขายค้ากำไรจากของทิพย์ ต้นไม้กลายพันธุ์เป็นต้นไม้เศรษฐกิจสนองโลภจริตของมนุษย์ สิ้นสุดต้นไม้หิมพานต์ อวสานของทิพย์
“ต้นเอยต้นไม้ เมื่อพอใจเขาเฝ้าแต่รักษา พอโลภมากพวกมันฟันลงมา อนิจจาสัตว์ทดลองของพระเจ้า”