บ้านของฉันและโลกของเธอ
ภายในรั้วมีถั่วแตงและแปลงผัก
มีการงานของความรักจากทุ่งถิ่น
แต่ละหยดหยาดเหงื่อที่เรื่อริน
ล้วนแต่งแต้มชีวินมิสิ้นรัก
มีก้อนหิน ดิน ทราย ใบไม้เขียว
เป็นส่วนเสี้ยวสร้างสมอุดมหลัก
มีดอกไม้พรายพรมกลืนกลมนัก
คอยรอคนรู้จักแวะทักทาย
เคาะประตูบานเก่าตรงนี้ก่อน
เคยลงกลอนมิดชิดทิศที่หมาย
เมื่อพร้อมเปิด ปรน เปลี่ยน วกเวียนคลาย
ต้อนรับมิตรสหายย่างกรายกลืน
ถอดรองเท้าแล้ววางตรงนั้นสิ
น้ำที่ลอยดอกมะลิจะผลิชื่น
รอยยิ้มจะผุดพรายคลายวันคืน
มือนี้จะหยิบยื่นยลน้ำใจ
หิวหรือเปล่าเพื่อนเอ๋ยเผยสักนิด
ทานข้าวปลาสิมิตรผู้ชิดใกล้
เก็บอารมณ์คุกรุ่นขุ่นเคืองใคร
เปิดสำรับอุ่นไอสิอบอวล
เมื่อเธอมองออกไปไกลหน้าต่าง
เห็นโลกกว้างไหมมิตรผู้คิดหวน
อาณาจักรของฟ้าประดามวล
ปีกสีนวลร่อนเร่อย่างเสรี
เมื่อผ่านวันฝันร้ายคลายลงแล้ว
เธอคงเห็นทิวแถวใบไม้สี
เข้าขับคลอดั่งเพียงเสียงดนตรี
มาปลุกปลอบใจที่เคยปวดร้าว
เถอะ,มาพักเอนหลังห้องนั่งเล่น
จิบชาในแสงเย็นของวันหนาว
ฟังเรื่องเบาสมองลองสักคราว
ทิ้งเรื่องราวหวาดหวั่นเหล่านั้นลง
บ้านของฉันหลังนี้มีความรัก
ให้เธอวักน้ำใจดื่มไม่ลืมหลง
เหนื่อยล้ามาจากไหนฝากใจปลง
พร้อมจับเข่าตั้งวงนั่งลงคุย
จับเข่าตั้งวงนั่งลงคุย
แบ่งปันสุข ทุกข์ทน ผลและเหตุ
ใช่แฝงเลศเข้าข่มคอยถ่มถุย
แต่แฝงความอบอุ่นกรุ่นเมฆปุย
ที่ลอยฉุยล่องเยือนเกลื่อนแสงวัน
ลอยฉุยล่องเยือนเกลื่อนแสงวัน
เมื่อฉวยหยิบ ’อธิปไตย’ ในลิ้นชัก
เธอจะเห็นอาณาจักรเคยเฝ้าฝัน
ไม่มีการแก่งแย่งพร้อมแบ่งปัน
ปราศจากการกีดกั้นวรรณะใด
นั่น แมวน้อยจับเจ่าบนเก้าอี้
โน่น ทีวีย้ำเตือนการเคลื่อนไหว
มองดูฟ้าข้างนอกไกลออกไป
คือโลกใหม่รอค้นรื้อด้วยมือเธอ !