ฟันดาบไทย-ลาว การละเล่นใน “สมุทรโฆษคำฉันท์”
มหรสพ (entertainment) หรือการละเล่น (amusement) ของสยามในอดีต ส่วนใหญ่สูญหาย ไม่มีแสดงกันแล้วในสังคมทั่ว ๆ ไป หลักฐานที่จะสืบค้นหาได้ คือ พวกเอกสารประวัติศาสตร์, วรรณคดี และภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นต้น
เนื้อหาในวรรณคดีโบราณ นอกจากงดงามด้านวรรณศิลป์แล้ว ยังมีคุณค่าทางด้านประวัติวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ด้วย เช่น โคลงประพาสคล้องช้างนครสวรรค์ ของหลวงศรีมโหสถ บันทึกเวลาที่ถูกต้อง ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดในพงศาวดารได้, กาพย์ห่อโคลง ของหลวงศรีมโหสถ บรรยายการแต่งกายของคนอยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์ไว้ชัดเจน
วรรณคดีที่บรรยายเรื่องมหรสพการละเล่นสยามไว้มาก คือเรื่อง “สมุทรโฆษคำฉันท์” ช่วงต้น ๆ ซึ่งเป็นฝีมือของ “มหาราชครู” กล่าวถึงมหรสพต่าง ๆ เช่น หัวล้านชนกัน, ไทย – ลาวฟันดาบ, ชวาแทงกฤช, ชนแรด ฯลฯ
ดาบไทยดาบล้านนา ภาพจาก www.pralanna.com
“ฟันดาบไทย – ลาว”
“มหาราชครู” เขียนเกริ่นถึงการละเล่นนี้ไว้ว่า
๏ จะเล่นเถลิงลาว ทั้งสองสามหาว
ชวนกันฟันแทง ผู้ใดดีจริง จักรู้จักแรง
ใครดีคำแหง จะเห็นฝีมือ ฯ
และเขียนบรรยายฉากฟันดาบอย่างละเอียดไว้ต่อจากเรื่อง “หัวล้านชนกัน” เนื้อหาเรื่องฟันดาบไทย – ลาวนี้นับว่ายาวกว่าในวรรณคดีเรื่องอื่น ๆ “คนลาว” ในเรื่องนี้เป็นคนเมืองพะเยา ชื่อ “ไกรหาญ” “คนไทย” ในเรื่องนี้เป็นคนสุโขทัย ชื่อ “กาไต”
น่าสังเกตว่าการละเล่น ไทย – ลาวฟันดาบนั้นทั้งในเรื่อง “สมุทรโฆษคำฉันท์” และ “บุณโณวาทคำฉันท์” ฝ่ายลาวเป็นลาวล้านนา และฝ่ายลาวพ่ายแพ้ทั้งสองเรื่อง คาดว่าการละเล่นนี้เป็นที่นิยมกันในสมัยอยุธยา ฝ่ายไทยจึงต้องชนะเสมอ
เนื้อความรายละเอียดมีดังนี้ (สะกดการันต์ตามต้นฉบับ โรงพิมพ์คุรุสภา พ.ศ.๒๕๐๒)
๏ ตำนานหนึ่งมา ลาวไทอาสา
ฟันแย่งระบิน ใครดีได้กัน กระชั้นโดยถวิล
คะค้าเอาดิน ทั้งสอง บ นาน
กูนี้เนื้อลาว แต่ยังพะยาว
บมีผู้ปาน เขาขึ้นชื่อกู ชื่อเสียงไกรหาญ
ปานปล้นเมืองมาร ขุนมารหักหัน
แม้ว่ามึงหาญ ออกมาอย่านาน
จะเลี้ยวลองกัน จะให้หัวมึง
จงแตกเหิรหัน กูนี้คนขัน จะขามคนใด
กูนี้ไทแท้ ท่านลือกูแล้ ในสุโขไทย
ไปลาดไปลอง ทุกทีมีไชย
หาญจริงเจ้าไท ธ ให้อาสา
ธ ไว้วางใจ บำเหน็จกูไกร
ผู้ใดจะมา ต่อกูจงดี
อย่าพลันระอา บำนาญกูครา นี้เรียกกาไต
แม้ว่ามึงหาญ จงออกมาพาน
ด้วยกูว่าไซร้ ลุกออกมาพลัน
อย่าทัน ธ ใช้ ต่อกูจะให้ จงหัวมึงหาย
ไกรหาญหาญจริง ครั้นฟังวางวิ่ง
ออกมาทะทาย ว่ากูนี้แล
เลิศลํ้าเลยชาย ดาบเข
๏ กาไตได้ตาวแล่นตาม ต่อสู้บมิขาม
แลสองก็กริ้วโกธา
สองสู้ฟันกันไปมา ดูสองสหัสา
สระแสรกสระเสื้องกลางแปลง
สองฟันสองกันสองแทง สองเที้ยรพอแรง
แลใจมิมลายสักอัน
ฉาดฉาดเสียงตาวฝืนฟัน สองต่อสู้กัน
ทั้งเขนก็แหลกบินบน
ต่างรู้รับตาวกันตน กาไตใส่กล
ว่าเหวยไกรหาญมึงกลัว
เดิมฟันกันสองชมชัว แต่ตัวต่อตัว
แลมึง บ มาเดียวดาย
สู้กันผกฟันผันผาย ฤาเพื่อนมึงหลาย
จะเข้ามาโซรมกูเดียว
ไกรหาญเดือดฟุนฉุนเฉียว กาไตลอยเลี้ยว
ก็ล้มตะแบงแหงนหงาย
ฝูงลาวพ่ายแพ้ทุกพาย กลัวแกลนเกลื่อนหาย
บรู้หลักแหล่งโหงโห ฯ