มีอันเป็นไป
ทางอีศาน ฉบับที่๑๐ ปีที่๑ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
คอลัมน์: เรื่องเล่าชุดพ่อเฒ่ากับลูกเขย
Column: Humourous Tale
ผู้เขียน: ชัด การชนะ
ภาพจาก: thammajak.blogspot.com
พิธีฝังลูกนิมิตเป็นพิธีที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เมื่อมีการสร้างโบสถ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องมีการประกอบพิธี “ฝังลูกนิมิต” โดยการนำลูกหินที่ทำให้กลม ขนาดประมาณเท่าบาตรหรือโตกว่าเล็กน้อย ฝังเป็นเครื่องหมายบอกเขตอุโบสถ หรือโบสถ์ ซึ่งทางอีศานเรียกว่า “สิม”
มีวัดอยู่ทางอีศานแห่งหนึ่งได้จัดงานฝังลูกนิมิต นับว่าเป็นงานใหญ่มาก เพราะได้เรียนเชิญระดับอธิบดีไปเป็นประธานตัดลูกนิมิตด้วยเมื่อถึงวันจัดงาน ท่านอธิบดีได้ไปพักที่โรงแรมท่านผู้ว่าฯในฐานะพ่อเมืองก็ไปต้อนรับ และนั่งรถตู้ไปบริเวณประกอบพิธีที่วัดด้วยกัน
ณ บริเวณวัดและปะรำพิธี มีแขกที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และนักการเมืองท้องถิ่นก็ไปกันพร้อมหน้า รวมถึงผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และชาวบ้าน กรรมการวัดก็อยู่กันครบ
สมปอง ลูกเขยกำนันบุญยืน ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่พิธีกร เพราะชาวบ้านเห็นว่าเป็นโฆษกจัดรายการทางวิทยุชุมชน มีคารมคมคาย ลูกเล่นลูกฮาดีเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านมาก แม้บางครั้งสมปองจะพูดออกนอกเรื่องบ้างชาวบ้านก็รับฟังได้เมื่อเห็นว่าแขกเหรื่อมากันพร้อมหน้า เวลาตามกำหนดการก็มาถึง สมปองเริ่มไปยืนอยู่ตรงที่ตั้งไมโครโฟน เริ่มเกริ่นนำสู่กิจกรรมตามกำหนดการ…
“ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพครับ วันนี้นับว่าวัดของเราได้รับเกียรติอันสูงยิ่งที่ท่านอธิบดี…ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานตัดลูกนิมิต ซึ่งเป็นงานสำคัญมาก และถือว่าเป็นงานศักดิ์สิทธิ์…!”
ในขณะนั้นรถตู้ที่ไปรับท่านอธิบดีและผู้ว่าฯ ได้เข้ามาถึงบริเวณวัด และจอดให้ท่านอธิบดีลงเข้าสู่บริเวณงาน ติดตามด้วยท่านผู้ว่าฯ…
สมปองพูดต่อ… “สำหรับพิธีตัดลูกนิมิตที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ผู้เป็นประธานในพิธีจะต้องเป็นผู้อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม จะต้องไม่เคยหลับนอนกับเมียในตอนกลางวันมาก่อน ถ้าประธานคนใดเคยทำมาแล้วจะต้องมีอันเป็นไป”
ท่านอธิบดีได้ยิน ใบหน้าท่านซีดขึ้นทันที หันไปหาท่านผู้ว่าฯ แล้วพูดขึ้นว่า “ท่านผู้ว่าฯ ผมลืมสนิทเลยว่า วันนี้…ผมมีนัดอีกงานหนึ่ง เวลาตรงกันซะด้วย ท่านผู้ว่าฯ เป็นประธานตัดลูกนิมิตแทนผมนะ! “
ท่านผู้ว่าฯได้ฟังภาระที่ท่านอธิบดีมอบหมายก็หน้าซีดอีกเหมือนกัน จึงหันไปหานายอำเภอ ที่นั่งในปะรำพิธีพร้อมกับบอกว่า
“ท่านนายอำเภอ ท่านอธิบดีท่านมีงานสำคัญอีกงานหนึ่ง ผมในฐานะพ่อเมืองต้องไปกับท่านขอมอบหมายให้ท่านนายอำเภอเป็นประธานตัดลูกนิมิตแทนผมนะ” ว่าแล้ว ท่านผู้ว่าฯกับอธิบดีก็เดินไปที่รถ นายอำเภอก็หน้าซีดเหลืองไปอีกคนหนึ่ง แล้วหันหน้าไปยังศึกษาธิการอำเภอ (สมัยนั้นยังไม่มีการปฏิรูปตำแหน่งข้าราชการ) ท่านนายอำเภอมีปฏิภาณที่ดีมาก ท่านนึกถึงคำฉันท์ไหว้ครูสมัยเรียนหนังสือระดับประถมมัธยม จึงพูดกับท่านศึกษาธิการอำเภอว่า
“ท่านศึกษา…ศึกษาสำเร็จทุกประการอายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ชาติและประเทศไทยเทอญ… เป็นประธานตัดลูกนิมิตแทนผมนะ ผมจะไปกับท่านผู้ว่าฯ”
ท่านศึกษาธิการอำเภอก็หน้าเหลืองหน้าซีดไปอีกคน หันหน้าไปหาใครใครก็ลุกเดินหนีทำทีจะไปห้องน้ำ ต่างก็ไม่ยอมรับการเป็นประธาน
สมปองเห็นว่า เหตุการณ์จะลุกลามไปเพราะคำพูดของตน จึงได้พูดทางไมโครโฟนต่อ…
“ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่านครับ… เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและยุ่งยาก ในการสรรหาประธานตัดลูกนิมิตในวันนี้ ผมว่าให้พ่อเฒ่าของผมซึ่งเป็นกำนันแหนบทองคำ และท่านก็อยู่ในศีลธรรมอันดีงามมาตลอด ผมขอเสนอ
กำนันบุญยืนเป็นประธานตัดลูกนิมิตครับ” เสียงคนปรบมือดังขึ้นทั่วปะรำพิธีกำนันบุญยืนหน้าซีดลุกขึ้น หันหน้าไปยังสมปองผู้เป็นลูกเขย แล้วตวาดขึ้นว่า
“บักปอบมึงเอ้ย… มึงอยากให้พ่อเฒ่ามึงมีอันเป็นไปเรอะ!”.