
ย้อนไปเมื่อปลายเดือน พ.ค.
คุณครูร้อยกว่าท่านจากหลายสิบโรงเรียน
ในเขตอีสานใต้ได้สมัครเข้ารับการอบรมกับ
"ครูก้อย ในดวงตา ปทุมสูติ" ที่ห้องประชุม
รร. บ้านโคกเขา อ.ปะคำ จ. บุรีรัมย์ กันอย่างหนาแน่น
โครงการพิเศษนี้เกิดขึ้นจากมูลนิธิทางอีศาน โดย
อ.ปรีดา ข้าวบ่อ ประสานให้กับ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
โดย อ.เนตรนภา ขุมทอง เลขาธิการมูลนิธิฯ เป็นเจ้าภาพ ซึ่งนอกจากขับเคลื่อนเรื่องสุขภาพมายาวนานแล้ว
ยังหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพการอ่านเขียนของคนไทยโดยเฉพาะลูกหลานชาวบ้านเพื่อการศึกษาที่เท่าเทียมอีกด้วย
ในวันนั้น นอกจากได้รับเคล็ดวิชาเป็นวิทยาทานแล้ว
ครูทุกท่านยังได้รับกระบี่คู่มือ คือ หนังสือ "เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว" ของ ผศ. ศิวกานท์
ปทุมสูติ เจ้าสำนักทุ่งสักอาศรม กลับไปพิชิตปัญหาช่วยเหลือเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยที่ยังอ่านเขียนเรียนอ่อน
เท่านั้นยังไม่พอยังมี 3 โรงเรียน ได้รับการคัดเลือกรับมอบสื่อการสอน(ชาร์ตไวนิล)
และได้รับการนิเทศติดตามช่วยเหลือจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญแบบเจาะลึกอินไซต์กันถึงที่
อีก 4 ครั้ง ได้แก่
รร. บ้านหนองคู อ. บึงบูรพ์ จ. ศรีสะเกษ
รร. บ้านโนนศิลา อ. เฉลิมพระเกียรติ จ. บุรีรัมย์
รร. บ้านโคกสะอาด อ. หนองกี่ จ. บุรีรัมย์
วันที่ 2-3 ก.ค. ที่ผ่านมา
คณะวิทยากรนำโดย "ครูก้อย" ได้เริ่มลงพื้นที่นิเทศติดตามการสอน..."แก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้"
ครั้งที่ 1 ให้กับโรงเรียนดังกล่าว โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ชั้น ป.1 ทว่าบางโรง ยังขยายครอบคลุมทุกช่วงชั้น
ที่ยังมีนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
ในมุมของวิทยากรผู้ช่วย ผมได้เรียนรู้ว่า...
การลงลึกเอาจริงจัดการองคาพยพที่เกี่ยวข้องเพื่อการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความแหลมคม วิธีคิด
วิธีการ ทักษะประสบการณ์หล่อหลอม
สังคมจะมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
หากเด็กๆ ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
และปล่อยให้ครูของพวกเขาเคว้งคว้าง
ในระบบการศึกษาของประเทศที่ถูกจัดว่า
กำลังล้าหลังรั้งท้ายที่สุดของอาเซียน!
ขอบคุณพี่ก้อย ที่ให้โอกาสผมได้ติดสอยห้อยตามครับ