ภาพแรกคือวังน้ำ เมื่อครั้งอดีตโขลงช้างลงเล่นน้ำกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ "วังช้าง"
เมื่อสำรวจปูชนียวัตถุ สถานที่ ภาพแกะสลัก และอาจารย์กบ สรุปถวายข้อมูลเบื้องต้นแก่เจ้าอาวาสแล้ว
หลวงพี่ท่านหนึ่งขันอาสาพาเดินไปดูรอยพระพุทธบาท

อาจารย์กบ อาจารย์ออม สหายอ่อนตา และผม ก็เดินตามหลวงพี่ข้ามลำห้วย ลงหลุบเขา ขึ้นพลาญหินที่แฉะลื่นไป 2 – 3 กิโลเมตร

 
หลวงพี่สวมรองเท้าแตะ สักไม้เท้าก้าวเดินโดยอาการสงบ พร้อมกับเล่าบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน
และภูมิทัศน์แวดล้อมให้ฟัง สังเกตคนอื่น ๆ ทั้งเดิน ทั้งตั้งใจฟัง มีคำถามเป็นระยะ
ผมเองกล้ามเนื้อขาเริ่มตึงเกร็ง เหนื่อย หายใจหอบ แต่เก็บรักษาอาการไว้
 
สักพักก็โผล่พ้นสู่ลานกว้างแห่งหนึ่ง ใกล้ขอบหุบเขานั้นเป็นตำแหน่งรอพระพุทธบาท
เสียดายภาพที่ปรากฏต่อสายตานั้นมีน้ำท่วมขังจนจมมิด
ถือว่าได้มาถึง แม้ไม่ได้เห็น ได้มีส่วนเป็นสักขีพยานประวัติศาสตร์โบราณคดีร่วมสองฝั่งโขง
-----------------------------
ภาพสุดท้าย : หมุดแดงในแผนที่เป็นตำแหน่ง“วังช้าง”โดยประมาณการ.
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com