ร้อยเอ็ดมาจากไหน

“ร้อยเอ็ด” มาจากไหน? ทำไมไม่ใช่ “สิบเอ็ด”? (จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553)

จังหวัดร้อยเอ็ดมาจากนามเดิมว่า เมืองร้อยเอ็ด หมายถึง เมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าและเส้นทางคมนาคมทางบกทางน้ำกว้างไกลไปทุกทิศทาง เหมือนมีประตูช่องทางออกไปติดต่อบ้านเมืองต่าง ๆ ได้ร้อยเอ็ดทิศ

ชื่อเมืองว่า “ร้อยเอ็ด” ได้จากชื่อใน ตำนานอุรังคธาตุ (คำบอกเล่าความเป็นมาของพระธาตุพนม จ. นครพนม) ว่า เมืองร้อยเอ็ดประตู เพราะเป็นเมืองใหญ่มีบริวารถึง 101 เมือง กับประตูเมือง 101 ประตู

ต่อมาได้มีข้อโต้แย้งจากผู้รู้บางท่านว่า “เมืองนี้มีเพียงสิบเอ็ดประตูเท่านั้น เพราะการเขียนตัวเลขสิบเอ็ดของคนอีสานและคนลาวสมัยก่อนนั้นเขียนว่า 101 ซึ่งต่อมาคนไม่เข้าใจการเขียนการอ่านของคนอีสาน จึงอ่านผิดไปเป็น หนึ่งร้อยเอ็ด หรือร้อยเอ็ด ด้วยเหตุนี้เมืองที่ควรจะชื่อว่าเมืองสิบเอ็ดประตูจึงกลายเป็นเมืองร้อยเอ็ดประตูไป”

ออแต่ข้อโต้แย้งต้องตกไป เพราะต้นฉบับตัวเขียนบนใบลานตำนานอุรังคธาตุไม่ได้เขียนเป็นตัวเลข แต่เขียนเป็นตัวอักษร กรมศิลปากรบอกไว้ในเอกสารชื่อบ้านนามเมือง…ร้อยเอ็ด (พิมพ์ พ.ศ.2552) ว่า

“จากการตรวจสอบของนักภาษาโบราณ กรมศิลปากร ไม่พบว่าในตำนานอุรังคธาตุมีการเขียนชื่อเมืองร้อยเอ็ดประตูด้วยตัวเลข หากแต่เขียนเป็นตัวอักษรทั้งสิ้น”

แล้วอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “ถึงแม้ว่าร่องรอยของประตูเมืองร้อยเอ็ดโบราณจากภาพถ่ายทางอากาศเมื่อ พ.ศ.2496 จะปรากฏว่ามีช่องทางเข้าออก 11 ประตูก็ตาม แต่จำนวน 11 ประตูก็มิได้เป็นจำนวนที่มากเกินปกติจนเป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้ เพราะเมืองโบราณศรีเทพซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัยและมีการขยายเมืองเช่นเดียวกันนั้น ก็มีการเพิ่มจำนวนช่องทางเข้าออกเป็น 11 ช่องทางตามการขยายของตัวเมืองเช่นกัน”

ร้อยเอ็ด จะตรงกับคำว่า “ทวารวดี” มีคำอธิบายของกรมศิลปากร (เอกสารประกอบนิทรรศการฯ เรื่อง ชื่อบ้านนามเมือง…ร้อยเอ็ด ผลิตเผยแพร่โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ร้อยเอ็ด เมื่อพ.ศ. 2552) เรื่อง ความหมายของเมืองร้อยเอ็ดประตู ไว้น่าเชื่อถือมีความว่า

“ในตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า เมืองร้อยเอ็ดประตูมีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น 101 เมือง การใช้จำนวนประตูเมืองมากมายนั้นเป็นความหมายแสดงถึงอำนาจที่แผ่ขยายกว้างไกลออกไปทุกทิศทาง โดยคติดังกล่าวนี้น่าจะมีที่มาจากอินเดีย ดังเช่นชื่อทวารวดี เมื่อแปลตามรูปศัพท์แปลว่า เมืองที่มีประตูเป็นกำแพง (ทวาร-ประตู และ วติ-รั้ว, กำแพง) และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับชื่อเมืองร้อยเอ็ดประตู ก็จะให้ความหมายถึงการเป็นเมืองศูนย์กลางที่มีอำนาจครอบคลุมออกไปโดยรอบทุกสารทิศเช่นเดียวกัน

ชื่อเมือง ‘ร้อยเอ็ดประตู’ เป็นมงคลนามที่ผู้ตั้งต้องการให้หมายถึงว่า เป็น ‘เมืองที่มีอำนาจแผ่ขยายกว้างไกลออกไปทุกทิศทาง’ ซึ่งคงไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีประตูจริง ๆ ถึง 101ประตู”

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com