เมื่อฟุตบอลไทย ถึงคราวพ่ายแพ้แบบเจ็บกระดองใจต่ออินเดีย ๑ – ๔ คนไทยไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ หรือคนไทยทั่วไปรู้สึกผิดหวัง
จริงอยู่ครับฟุตบอลมีทางออก ๓ ทาง แพ้ ชนะ หรือเสมอ
แต่การแพ้อินเดียแบบภาษาฟุตบอลเรียกว่า “ไม่มีทรง” ภายใต้การใช้โค้ชนอก มิโลวาน ราเยวัช ซึ่งเป็นชาวเซอร์เบีย ก็ทำให้คนดูฟุตบอลตกใจมาก
นักฟุตบอลเก่ง ๆ ของไทยเล่นกันผิดหูผิดตา ตกต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่มีใครตำหนินักฟุตบอลเลยครับ
เพราะ “ความจริง” ก็คือโค้ช มิโลวาน ราเยวัช วางแผนผิด วางตัวนักเตะผิดตำแหน่ง
บอลไทยที่เคยรุกและรับอย่างมีระบบ สวยงาม สนุก และมีพิษสง กลายเป็นบอลตั้งรับแบบที่เขาเปรียบเทียบว่า “เอารถบัสมาจอดขวางประตู”
เน้นหลังแน่น โยนยาวให้กองหน้าวิ่ง วิ่ง และวิ่ง
นั่นคือภาพที่ทุกคนดูสุดจะเซ็ง และในที่สุด โค้ชนอกก็ถูกปลด ปลดเพราะผลงานไม่ดี และคนไทยทนไม่ไหวแล้ว
เกมที่เหลือ ทางสมาคมมอบให้ “โค้ชโต่ย” หรือ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กับ โชคทวี พรหมรัตน์ “นกกระยางดำ” คุมทีมแทน และศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กับคู่หูก็พลิกโฉมทีมฟุตบอลไทยเล่นดีขึ้นผิดหูผิดตา
โค้ชโต่ย คนนี้คือ นักสู้ลูกข้าวเหนียวที่คนไทยต้องจดจำเขาไว้ ในฐานะคนสำคัญคนหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย
แม้ต่อมาเราจะแพ้จีน ๑ – ๒ และตกรอบในรอบ ๑๖ ทีมสุดท้าย ก็ถือว่าไปได้ไกลมากแล้วและเป็นครั้งแรกในรอบ ๔๗ ปี
ปรบมือดัง ๆ ให้ บักโต่ย โค้ชขัดตาทัพ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ในเอเชียคัพปี ๒๐๑๘ ลูกข้าวเหนียวคนนี้ เป็นเด็กบ้าฟุตบอลจากมหาสารคาม
เคยติดทีมชาติในตำแหน่งกองกลาง เคยเป็นโค้ชทีมในลีค เพราะเป็นคนนิ่ง แต่ภายนอกที่ดูนิ่ง ๆ นั้น ภายในสมองเขาคิด เขาเป็นคนมีไฟใฝ่พัฒนาเสมอ
คนที่รู้จักเขามาก่อน จะไม่แปลกใจที่เขาแบก “ความหวัง” ของคนไทย รับหน้าที่แทนโค้ชนอกได้ดี ถึงดีมาก
จับตานักสู้ลูกข้าวเหนียวคนนี้กันไว้ให้ดี เขาจะเป็นโค้ชพันธุ์ไทยที่มีอนาคตยาวไกล
ขอบคุณภาพจาก www.khaoball88.com และ www.khobsanam.com
