สื่อสารกันคลาดเคลื่อน
1.
บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ทำหนังสือถึงเจ้ากระทรวงที่ทรงอำนาจ ขออนุเคราะห์จัดสรรวัคซีนให้พนักงานและครอบครัว ในขอบเขตทั่วประเทศรวมจำนวนกว่า 70,000 คน บริษัทนี้มีกิจกรรมเอกอันหนึ่ง ได้แก่ตระเวนสอนให้ชาวบ้านรู้จักเศรษฐกิจและใช้ชีวิตพอเพียง
เจ้ากระทรวงสั่งกรมออกหนังสือถึงผู้ว่าทุกจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ดูแลจัดการตามคำขอนั้น
ทันทีที่คำสั่งจากเจ้าถูกเปิดเผย เสียงวิพากษ์ดังกระหึ่มจนต้องออกหนังสือยกเลิกในชั่วข้ามคืน
เจ้ากระทรวงออกมาให้สัมภาษณ์ สื่อจับคำสำคัญพาดหัวตรงกัน “สื่อสารกันคลาดเคลื่อน”
คำคำนี้ปกติต้องออกจากปากผู้ถูกกระทำ ออกจากปากเมื่อฝ่ายกระทำจำนนด้วยพยานหลักฐานเหตุผลถึงความผิดของตน ผู้ถูกกระทำคิดใหญ่มองการณ์ไกลจึงอโหสิและแผ่เมตตาต่อหน้าหมู่คณะทั้งสองฝ่ายด้วยประโยค “สื่อสารกันคลาดเคลื่อน” หรือ “สื่อสารกันผิดพลาด แล้วก็แล้วกันไปนะ”
นี่…ด้วยกาละเทศะ ไม่ใหญ่จริง คิด พูด เช่นนี้ไม่ได้เลย
2.
เช่นเดียวกับกรณีบริษัทอีกแห่งหนึ่ง หวังจะอุบที่ดินสาธารณะของชาวบ้านที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
พนักงานรวมหัวรัฐการท้องถิ่นทำหนังสือ หลักฐานเท็จทุกอย่าง ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ แถมใช้ลายเซ็นปลอมเต็มหน้ากระดาษ
เมื่อคำสั่งเจ้ากระทรวงแจ้งระบุที่ดินผืนนั้นเป็นของบริษัทเอกชนโดยสมบูรณ์ ประชาชนผู้หวงแหนรักษาประโยชน์ของส่วนรวม ต่างลุกขึ้นมาคัดค้านต่อสู้อย่างเข้มแข็ง
สุดท้ายต้องยกเลิกคำสั่ง เจ้ากระทรวงผู้ลงนามเองให้สัมภาษณ์สั้น ๆ …แต่ละวันมีเอกสารมากองให้เซ็นบนโต๊ะมาก…
เพียงสีหน้าเรียบเฉย คำพูดน้อย ๆ เช่นนั้นจะไม่ช่วยอะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่มีอำนาจราชศักดิ์
3.
ล่าสุด แค้มป์คนงานของบริษัทผูกขาด มีคนงานต้ดเชื้อโควิด แม้รัฐช่วยรับไปตรวจรักษา สุดท้ายเอาไม่อยู่ต้องล็อคดาวน์
เมื่อประเทศเผชิญวิกฤติเช่นนี้ เขาควรรับผิดชอบคนงาน คนงานผู้สร้างอาณาจักรเงินทองกองให้เขามาทั้งชีวิต คนงานที่เขาไม่เคยให้สวัสดิการ โบนัส อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เมื่อมีภัยมาเขายังโยนให้รัฐรับผิดชอบ อย่าถามถึงสำนึกที่เขาต้องดูแลและอุทิศตนเพื่อสังคมอย่างใด รัฐเองก็โยนต่อให้ประชาชนดูแลกันเอง
“สื่ออย่าไปลงว่า เมื่อแรงงานที่อาจจะมีเชื้อไปต่างจังหวัด แล้วจะทำให้แดงไปทุกจังหวัด ต้องดูให้ละเอียด เพราะเราคุ้นเคยกับโควิดมาตั้งแต่ระลอกแรก พอปิด กทม.หมด ประชาชนก็หนีออกไปต่างจังหวัด อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่เพราะเกิดจากการแพร่ระบาดในจังหวัดนั้น ๆ ตรงนี้ทำให้เราเห็นว่าน่าจะคุมได้”
นี่คือ คำพูดของเจ้ากระทรวงการปกครองประเทศไทย
4.
ยังไม่ถึงเวลาย้อนไปไกลถึงกรณีสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปมประเด็นค่าจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ และอื่น ๆ
เรื่องราวคราวนั้นมันยิ่งกว่าการจัดสร้างเสาไฟกินรีขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะเป็นหมื่นเท่าแสนเท่า.
___________________________________
ขออนุญาตและขอบคุณแหล่งภาพมา ณ ที่นี้