หั ว ป ลา
เคยได้ยินคำคม ที่ผู้คนมักเอ่ยขึ้นมาเป็นคติประจำใจตนเองอยู่หลายคำ หรือหลายข้อความ เช่น “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” “งานคือเกียรติยศ” “ชีวิตยังไม่สิ้นต้องดิ้นไป” เป็นต้น
พ่อเฒ่าอารมณ์ แกเป็นข้าราชการบำนาญแม้จะมีเงินบำนาญที่เป็นรายได้ประจำทุกเดือนก็ตาม แต่แกก็ยังหางานที่เป็นอาชีพเสริมรายได้อีกหลายอย่าง เช่น ทำนา เลี้ยงวัว ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำไม้กวาดดอกหญ้า (ฟอย) ขายส่งเป็นอาชีพเสริม โดยมีคำคมคติเตือนใจว่า “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” จึงนับว่าพ่อเฒ่าอารมณ์ ทำตนเป็นแบบอย่างแก่ผู้คนและเยาวชนรุ่นหลังได้อย่างน่านับถือ!
บักหมอน เป็นลูกเขยของพ่อเฒ่าอารมณ์ที่ขยันทำมาหากินและช่วยงานพ่อเฒ่าของมันอย่างเข้มแข็ง แต่บักหมอน มันก็มีลูกเล่น ลูกชนชอบหยอกล้อ หรือแกล้งคน จนเป็นนิสัย มันไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อเฒ่าอารมณ์ ซึ่งเป็นพ่อตาของมันแท้ ๆ และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของบักหมอนคือ ชอบปรุงอาหาร กับแกล้มรสแซบ ฝีมือเทียบกุ๊กอาชีพ จนถึงขั้นได้รับคำชมจากพ่อเฒ่าอารมณ์ว่า
“หมอนเอ้ย…เรื่องเฮ็ดกับแกล้มนี่ พ่อว่าโต๋ฝีมือขั้นเทพ สุดยอดเด้อสิบอกให่!”
ทุกครั้งที่นั่งร่วมวงกินข้าวด้วยกัน บักหมอนมันสังเกตได้ว่าวันใดปรุงอาหารประเภทปลา พ่อเฒ่าอารมณ์มักจะจองหัวปลาไว้ก่อน แกชอบแทะหัวปลากินแบบอร่อยถูกใจสุด ๆ
“ในบรรดาอาหารปลาที่พ่อชอบที่สุดคือส่วนหัวปลาเด้อ แซบเป็นแซบ! มื้อหลังเฮ็ดต้ม
ปลาให้พ่อกินแหน่เด้อ ซิได้แทะหัวปลาคัก ๆ” พ่อเฒ่าอารมณ์เปรยกับบักหมอน
วันหนึ่ง บักหมอนเปรยออกมาว่า จะทำต้มส้มปลาใส่ยอดมะขามอ่อน เป็นเมนูพิเศษ! เมื่อพ่อเฒ่าอารมณ์ได้ยิน ก็ใจจดใจจ่อว่าจะต้องแทะหัวปลาฝีมือปรุงของกุ๊กหมอน ผู้ลูกเขยให้เต็มอิ่ม…บักหมอนดำเนินการปรุงอาหารอยู่ในครัว พ่อเฒ่าอารมณ์ล้างมือ แล้วไปนั่งคอยเวลากินข้าวที่โต๊ะอาหาร บักหมอนยกสำรับออกมาวางบนโต๊ะ! พ่อเฒ่าอารมณ์ถึงขั้นหมดอารมณ์! เมื่อมองไปยังชามต้มส้มปลาใส่ใบมะขามอ่อน…
“บักห่าหมอน! มึงสิให้พ่อแทะหัวปลาหลดนี่เรอะ บักห่ามึงเอ้ย!”