อำมหิต
ภาวะแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของผู้ไต่เต้าตะเกียกตะกายสู่สถานะชนชั้นนำ ทำให้คิดถึงเรื่องราวชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ไล่ล่าหายศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจ และความร่ำรวย เหมือนใครหลายคนบนเวทีการเมืองขณะนี้
เขาเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 39 และปี 2543 เรียนปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร
รับราชการจนดำรงตำแหน่งสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองกำแพงเพชร ปี 2544 และ 2548 ลงสมัคร สส.จ.นครสวรรค์ สังกัดกลุ่มวังน้ำเย็นของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน พรรคไทยรักไทย ปี 2550 จึงได้รับเลือกตั้ง สส.แบบสัดส่วน ในนามพรรคมัชฌิมาธิปไตย
ปี 2551 สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระทั่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี กรณียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งขณะนั้นเขานั่งตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคฯด้วย จากนั้นลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยอีกสองครั้ง แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ปี 2555 ถูกออกหมายจับ 4 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์, รับของโจร, ปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอมโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง เสี่ยนักธุรกิจรับเหมา ต่อมาปี 2559 ถูกจับกุมในข้อหาฆ่าเสี่ยชูวงษ์โดยเจตนา
ระหว่างนี้ยังสั่งการข่มขู่ให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ยกฟ้อง และคืนหุ้นทั้งหมดที่โกงให้แก่เขา เมื่อผู้พิพากษาไม่ยอมจึงจับพี่ชายผู้พิพากษาไปเป็นตัวประกัน และในที่สุดพี่ชายผู้พิพากษาก็ถูกฆ่าเผานั่งยาง
ตลอดชีวิตของเขายังมีคนรอบข้างตายอย่างปริศนาเป็นจำนวนมาก ทั้งภรรยาเก่า น้องชายภรรยาใหม่ และคนดังจังหวัดนครสวรรค์อีกหลายราย
ปี 2563 ศาลอาญาตัดสินให้เขากับพวก 4 คนถูกจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา สำหรับคดีฆ่าอำพรางเสี่ยชูวงษ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาโทษประหารชีวิต และเมื่อปี 2567 ศาลฎีกาพิพากษายืน
ชีวิตต้องโทษภายในเรือนจำ นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ วางแผนแหกคุกจะใช้ระเบิดเปิดทางหนี โดยมีเฮลิคอปเตอร์มารับ พร้อมทั้งสั่งให้สมุนลักพาภรรยาผู้บัญชาการเรือนจำเป็นตัวประกัน แต่แผนชั่วนี้รั่วไหล นายบรรยินคิดจะผูกคอตาย แต่เจ้าหน้าที่ช่วยไว้ได้ จากนั้นจึงเพิ่มโทษและย้ายที่คุมขัง
การแย่งชิงอำนาจการเมืองและผลประโยชน์ในหมู่ชนชั้นนำ โดยประชาชนตกเป็นเหยื่อของความเหลื่อมล้ำ อยุติธรรม ไร้ซึ่งอำนาจ คือการก่ออาชญากรรมที่อำมหิต.
