เยี่ยมพิพิธภัณฑ์ หนูฮัก พูมสะหวัน “หนึ่งในวีรบุรุษแห่งอารยธรรมลุ่มน้ำโขง” สืบสานความสัมพันธ์สองฝั่งโขง
******
เยี่ยมพิพิธภัณฑ์ หนูฮัก พูมสะหวัน
“หนึ่งในวีรบุรุษแห่งอารยธรรมลุ่มน้ำ
0 ประวัติท่านหนูฮัก พูมสะหวัน
อดีตประธานประเทศลาว
และอดีตหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิวัติลาว
หนูฮัก พูมสะหวัน เป็นบุตรของนายทองพัก กับนางบันทูน พูมสะหวัน เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2453 ในครอบครัวเชื้อสายญวน บ้านพาลุกา แขวงเมืองมุกดาหาร (ปัจจุบันขึ้นกับตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร) มีน้องสาวชื่อนางสีดา พูมสะหวัน เรียนหนังสือชั้นต้นที่วัดมโนภิรมย์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นโดยพี่ชายเจ้าจันทกินรี เจ้าเมืองมุกดาหาร อนึ่ง นางบันทูนผู้เป็นมารดาเป็นหลานสาวของพระอมรฤทธิธาดา (ญาหลวงทัด) เจ้าเมืองพาลุกากรภูมิ ต่อมาครอบครัวได้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานกับครอบครัวที่เมืองคันธบุรี ประเทศลาว ราวอายุ 14 – 15 ปี
พ.ศ. 2493 หนูฮักได้เข้าร่วมขบวนการต่อต้านฝรั่งเศสในลาวพร้อมกับผู้นำของลาวฝ่ายซ้ายคนอื่น ๆ ต่อมา เมื่อมีการก่อตั้งพรรคประชาชนลาว (พรรคประชาชนปฏิวัติลาวในปัจจุบัน) ใน พ.ศ. 2498 จึงได้รับเลือกให้เป็นกรรมการกลางของพรรค
พ.ศ. 2502 หนูฮักพร้อมด้วยเจ้าสุภานุวงศ์ และผู้นำลาวฝ่ายซ้ายคนอื่น ๆ ถูกรัฐบาลลางฝ่ายขวาจับกุม แต่ก็สามารถหลบหนีไปได้และได้เคลื่อนไหวเพื่อการปฏิวัติลาว โดยหนูฮักรับผิดชอบเขตงานแถบภาคเหนือของลาว (เชียงขวางและหัวพัน) และได้มีบทบาทในการร่วมรัฐบาลกับรัฐบาลลาวฝ่ายขวาที่เวียงจันทน์ทุกครั้ง หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองและสถาปนาประเทศลาว พ.ศ. 2518 หนูฮักจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน กำกับดูแลเศรษฐกิจของประเทศเป็นเวลาหลายปี
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2535 หนูฮักจึงได้รับเลือกให้เป็นประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แทนนายไกสอน พมวิหาน ซึ่งถึงแก่กรรมขณะดำรงตำแหน่ง จนถึง พ.ศ. 2541 หลังจากนั้นจึงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคต่อมาเป็นเวลา 5 ปี ก่อนจะเกษียณตัวเอง
หนูฮัก พูมสะหวัน ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ขณะมีอายุ 98 ปี.
0 ประวัติบ้านพาลุกา
อำเภอชะโนด จังหวัดมุกดาหาร
“เมืองพาลุกากรภูมิ” เป็นเมืองขึ้นของเมืองมุกดาหาร ตั้งในสมัยรัชการที่ ๔ พ.ศ.๒๔๐๙ ปัจจุบันเป็นบ้านพาลุกา ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร “พาลุกา” มาจากคำว่า “พาลุกะ” ในภาษาบาลี แปลว่า “ทราย”
เจ้าจันทรเทพสุริยวงษ์ (เจ้าหนู) จากราชวงศ์เวียงจันทน์ ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองมุกดาหารใน พ.ศ.2408 พยายามที่จะขยายเขตเมืองมุกดาหารครอบคลุมทั้งสองฝั่งโขง รวมดินแดนสุวรรณเขต (สะหวันนะเขต) จนจรดแดนญวนให้กว้างใหญ่มากยิ่งขึ้น เพื่อทดแทนนครเวียงจันทน์ซึ่งเป็นเมืองร้าง
เจ้าเมืองมุกดาหารจึงขอรับพระราชทานตั้งเมืองขึ้นมาใหม่อีกเมืองหนึ่ง โดยแยกอาณาเขตเมืองมุกดาหาร ตั้งแต่ห้วยบังทราย (บางทราย) ขึ้นไปทางเหนือจนถึงลำน้ำก่ำ (ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนมปัจจุบัน) จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองในแขวงบ้านบังทราย (ตำบลบางทรายน้อย) ว่า “เมืองพาลุกา” คือ บ้านพาลุกา
พ.ศ. ๒๔๔๒ ยุบเมืองพาลุกากรภูมิ ลงเป็นหมู่บ้านขึ้นกับเมืองมุกดาหาร กรมการเมืองท้าวเพี้ยเก่า ๆ ได้พากันอพยพข้ามโขงไปอยู่เมืองคันธบุรี แขวงสุวรรณเขตของลาว บางพวกก็ขอเข้ารับราชการกับฝรั่งเศส เช่น ท้าวฮ่อม บุตรราชวงษ์ เมืองพาลุกากรภูมิ ได้รับตำแหน่งให้เป็นเจ้าเมืองคันธบุรี แขวงสะหวันนะเขตคนแรก ต่อมาบรรดาบุตรหลานได้อพยพตามไปอยู่ฝั่งลาวเป็นจำนวนมาก จนที่ตั้งเมืองพาลุกากรภูมิกลายเป็นเมืองร้าง เช่น ท้าวหนูฮัก พูมสะหวัน อดีตประธานประเทศ (ประธานาธิบดี) ของลาวก็เกิดที่บ้านพาลุกา อำเภอหว้านใหญ่ เมืองมุกดาหาร ซึ่งต่อมาได้อพยพข้ามโขงไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ฝั่งลาวและรับราชการกับฝรั่งเศส.