เหลือใจกับการเสียชีวิต
ของลูกหลานไทศรีสะเกษ
ขอแสดงความเสียใจร่วมกับพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรทุกคน
เหลือใจอย่างยิ่งกับการตายของคนหนุ่มสาวจำนวนสิบกว่าคนในคราวเดียวกัน
เป็นการจากไปพร้อมกันในช่วงก่อนวัยอันควร
เป็นวัยวันที่พวกเขาพร้อมจะทำงานหาเลี้ยงชวิต และเป็นที่พึ่งของครอบครัว
ครอบครัวคนอีสานเราที่พอมีกำลัง ถึงแม้จากการขายวัว ควาย ขายที่นา
ทุกครอบครัวจะส่งลูกเรียนหนังสือ
เพื่อให้มีความรู้สำหรับประกอบอาชีพ
หากเติบใหญ่ เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การก็ได้ค้ำหนุนเจือจุนแก่คนรอบข้าง
คนวัยหนุ่มวัยสาวอีสาน ทั้งเรียนหนังสือเพียงภาคบังคับ และเรียนชั้นสูงขึ้นไป
ส่วนหนึ่งรับราชการ
ส่วนมากทำงานตามบริษัท ห้างร้าน โรงงาน
ส่วนน้อยที่สืบสายเลือดเกษตรกร เอาหลังสู้ฟ้าเอาหน้าสู้ดินอยู่หมู่บ้าน
คนที่ดิ้นรนหากินไกลถิ่น มีเงินก็เก็บส่งกลับบ้าน มีลูกก็ส่งให้พ่อแม่เลี้ยง
เวลางานบุญงานทานก็ตั้งกองผ้าป่ากองกฐิน
พากันเหมารถกลับไปทำบุญ และถือโอกาสเยี่ยมยามญาติมิตรเพื่อนฝูง
บางโรงงานเถ้าแก่ใจดี หรือภาวะจำยอมเพราะคนทั้งตำบลคือคนงานของตน ก็ปิดโรงานให้เลย
“ศรีสะเกษครองเมือง”
เป็นข้อความประกอบภาพในโพสต์สุดท้ายของกลุ่มผู้เสียชีวิต
นั่นไม่ใช่คำอหังการของอันธพาลที่จะยึดครองเมือง
แต่สะท้อนว่า ชีวิตลูกอีสานมาหาอยู่หากินในถิ่นนี้เป็นจำนวนมาก
บริษัทห้างร้านโรงงานตลอดแนวถนนกิ่งแก้ว
รวมถึงในเขตจังหวัดสมุทรปราการ
เต็มไปด้วยชาวอีสาน
โดยเฉพาะพี่น้องไทศรีสะเกษ
เหลือใจมากกับลูกหลานที่มาฝึกงาน แล้วมาเสียชีวิตไกลบ้าน
พวกเขาคือความหวังของครอบครัว
พวกเขาคืออนาคตของชุมชนประเทศชาติ
ขอให้ลูกหลานที่ยังต่อสู้ร่ำเรียน ยังฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคในการงาน
ได้มีความสุขตามอัตภาพ
ฝากให้มีสติไตร่ตรองใคร่ครวญ
ทุกการกระทำ ทุกย่างก้าวที่เราจะเหยียบก้าวเดินไปนั้น
มันเป็นศักดิ์ เป็นศรี เป็นเกียรติยศสมกับชีวิตและลมหายใจของเราแล้วหรือไม่?
(ขออนุญาตเจ้าของภาพมา ณ ที่นี้)