การเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนี้ ถือเป็นการจัดระเบียบโครงสร้างส่วนบนของสังคมไทย
พี่น้องชาวภาคอีสานบ้านเฮา และทุกภูมิภาค อยู่กินกับธรรมชาติ ด้วยลำแข้งของตนเอง โดยมีจารีตประเพณีครรลองครองธรรมกำกับวิถีชีวิตและจิตศรัทธา
เมื่อสังคมโลกพัฒนาเข้าสู่ยุคทุนนิยม จากระบบแลกเปลี่ยนสินค้าพัฒนาเป็นการซื้อขาย มีการสะสมเงิน เงินสามารถต่อยอดออกดอกผลได้ เงินที่เป็นเครื่องมือของมนุษย์กลายเป็นสิ่งมีค่าและมีอำนาจด้วยตัวของมันเอง
ในรอบ 70 – 100 ปีที่ผ่านมา ผู้คนตามหมู่บ้านทั่วประเทศไทย ถูกพ่อค้าคนกลางขูดรีดส่วนเกินจากผลผลิตและการเก็บของป่าขาย ถูกรีดภาษีเงินได้ ถูกกีดกัน ทำลายทางชาติพันธุ์ วัฒนธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเลือดเย็น ท่ามกลางระบบราชการที่อ่อนแอ ไร้ธรรมาภิบาล และกินสินบาทคาดสินบน
ทุกวันนี้ผืนนาส่วนใหญ่ไม่ใช่ของผู้ถือคันไถแล้ว โฉนดที่ดินไปกองอยู่ในตู้เซฟของพ่อค้าในเมือง ในธนาคาร คนเล็กคนน้อยต้องเป็นหนี้นอกระบบ เยาวชนคนหนุ่มสาวถูกขังอยู่ในห้องเรียนสี่เหลี่ยมที่คับแคบและมืดทึบ คนวัยทำงานและพ่อบ้านแม่เรือนต้องออกเร่ขายแรงงาน ตามหมู่บ้านเหลือเพียงผู้เฒ่าผู้แก่กับเด็กเล็ก ในชุมชนเกลื่อนไปด้วยยาบ้าและอยู่กันท่ามกลางอิทธิฤทธิ์แก๊งค์หลอกลวงทางออนไลน์
เมื่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้รับการสถาปนาขึ้น โดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยังได้รับการสืบทอด พ่อค้าคหบดีได้พากันเข้าสู่การทำงานการเมือง เริ่มแรกอาจมีเจ้าขุนมูลนายผสมผสานเข้าด้วย แต่ต่อมาได้กลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน จากกลโกงใต้โต๊ะพัฒนาเป็นคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และผูกขาดสัมปทาน
เพียงช่วงสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ชนชั้นนำของสังคมไทยสะสมทุนได้มหาศาล มีทรัพย์สินสะสมจำนวนนับหมื่นล้านบาท แสนล้านบาท และล้านล้านบาท และมีอิทธิพลทางการเงินการเมืองเพียงไม่กี่ตระกูล โดยมีบริษัทบริวารรองรับสถานะไม่กี่ครอบครัวในแต่ละจังหวัดแต่ละอำเภอ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เปิดเผยว่ามีทรัพย์สินขณะหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศจำนวน 60,000 ล้านบาทนั้น วันนี้ได้กลับเข้าประเทศ และกำลังทำหน้าที่หัวหมู่ทะลวงฟันเพื่อจัดสรรอำนาจนำของตนและหมู่คณะ ประสานกับอำนาจอนุรักษ์นิยมเดิมขึ้นใหม่ แทนอำนาจรัฐเผด็จการทหารที่ไร้ประสิทธิผล ในสมการนี้ไม่มีอำนาจของประชาชน