ผมเกิดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2507 เป็นชาวจังหวัดมหาสารคาม ชอบขีด ๆ เขียน ๆ และการวาดรูปมาตั้งแต่วัยเด็ก จนกลายเป็นความสุขเมื่อได้วาดรูปและอยู่กับสิ่งนี้ได้นาน ๆ แล้วพัฒนาฝีมือดีขึ้นเรื่อย ๆ ครั้นพอได้เข้าโรงเรียนก็มีครู อาจารย์ที่ดี ๆ และเก่ง ๆ อบรมสั่งสอนและให้คำแนะนำมากมายจนมีทักษะฝีมือมากขึ้น
หลังจากนั้นผมสอบเข้าเรียนต่อที่คณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร พอเรียนปลายปีชั้นปีที่ 2 ผมได้รับรางวัลเหรียญเงิน จิตรกรรมบัวหลวง จากนั้นก็ได้รางวัลดีเด่น ศิลปกรรมศิลปินรุ่นเยาว์ รางวัลชนะเลิศศิลปกรรมเยาวชนแห่งประเทศไทย พอเรียนถึงปลายชั้นปีที่ 3 ก็ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง จิตรกรรมบัวหลวง ขณะเดียวกัน ผมได้รับการชักชวนจากอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ให้ร่วมเดินทางไปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีเพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นพี่ไปพร้อมกันหลายคน การได้ร่วมงานตรงนั้นทำให้ผมเข้าใจกระบวนการสร้างงานศิลปไทยที่ร่วมสมัย
จากนั้นก็มาศึกษาต่อจนจบ ซึ่งระหว่างนั้นยังส่งงานเข้าประกวด และได้รางวัลเหรียญทอง จิตรกรรมบัวหลวง ได้รางวัลชนะเลิศศิลปกรรมร่วมสมัย รางวัลเกียรตินิยมอันดับ 3 เหรียญทองแดง ศิลปกรรมแห่งชาติ แล้วเมื่อปี 2534 ผมได้รับรางวัลยอดเยี่ยม พู่กันทอง จิตรกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 36 พรรษา ปีต่อมา ได้รับรางวัลที่ 3 จิตรกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ต่อมาได้รับรางวัลที่ 1 จิตรกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
ผมเคยร่วมเขียนภาพประดับตกแต่งพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอกัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และงานที่สำคัญที่สุดในปี 2537 ผมมีโอกาสเริ่มต้นถวายงานเขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ผลงานนี้ได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือพร้อมเหรียญพระมหาชนก ในปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ใน พ.ศ.2539 จึงถือเป็นมงคลอันสูงสุดที่ผมได้สร้างผลงานมา และเมื่อที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคต ผมได้ร่วมงานกับทีมที่วาดภาพวัดพุทธปทีป นำโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นจิตรกรอาสา ระบายสีประติมากรรมเพื่อประดับตกแต่งรอบ ๆ พระเมรุมาศ ถือเป็นการถวายงานรับใช้พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ที่ปลาบปลื้มในหัวใจที่สุด แม้จะโศกเศร้าเสียใจสักปานใดก็ตาม
จากนั้น ด้วยความพากเพียร ความมุ่งหวัง และมั่นคงไม่ท้อถอยที่จะทำอะไรต่าง ๆ จึงได้ปรากฏความชัดเจนต่ออาชีพศิลปิน หลายคราวเมื่อมีโอกาสก็มักจะได้ช่วยงานศิลปวัฒนธรรมอยู่เนือง ๆ นอกเหนือจากงานศิลปะที่ทำเพื่อจัดแสดงของตัวเอง และได้รับเชิญแสดงในที่ต่าง ๆ ซึ่งงานที่ผมได้รับที่จะช่วยก็คืองานที่เกี่ยวกับพระ เกี่ยวกับศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมเองได้เข้าไปกราบไหว้พระและทำบุญอยู่ตลอด จึงทำให้ซาบซึ้ง เข้าใจทั้งเนื้อหา แนวคิด และความงดงาม รวมถึง คุณค่าในศิลปวัฒนธรรมที่มีอยู่ในวัด จนทำให้ได้ทั้งออกแบบการประดับตกแต่งในหลาย ๆ ส่วนของวัด และได้ออกแบบ ดูแลการก่อสร้าง พระธาตุพุทธมงคล ที่วัดอภิสิทธิ์ มหาสารคาม
อีกหนึ่งผลงานที่กำลังจัดสร้าง และภาคภูมิใจ ทั้งให้การทุ่มเทอย่างมาก คือการออกแบบและจัดสร้าง พระพุทธศรีมหาทรัพย์ ที่ใช้เวลาและการออกแบบอย่างเต็มที่ ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ผลงานนี้ออกมาดีและสมบูรณ์แบบที่สุด
ที่สุดแห่งชีวิต ถวายงานวาดภาพประกอบพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก”
พระพุทธรูปศรีมหาทรัพย์