เมื่อคนอาเซียนเปลี่ยนการกิน

เมื่อคนอาเซียนเปลี่ยนการกิน

ทางอีศาน ฉบับที่ ๘ ประจำเดือนธันวาคม ๒๕๕๕
คอลัมน์: อุษาคเนย์เห่กล่อม
Column: Southeast Asian Lullaby
ผู้เขียน: จินตรัย


จากหลักฐานอาหารที่ใช้บริโภคดึกดำบรรพ์ยุคแรก ๆ ที่กระจายทั่วดินแดนอุษาคเนย์นั้นคือ ?ข้าวเปลือก? และเป็นเปลือกข้าวทรงป้อมเสียด้วย นั่นแสดงว่า บรรพชนยุคแรกเริ่มรับประทานข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก ยุคต่อมามีการสร้างบ้านแปงเมือง ผู้นำที่แข็งแกร่งก็มีชาวบ้านที่อ่อนแอเป็นผู้ตาม เป็นข้าทาส เป็นไพร่ ก่อเกิดและแบ่งแยกวัฒนธรรมเจ้านาย วัฒนธรรมไพร่ขึ้น ดูเหมือนว่า อารยธรรมที่เข้มแข็งกว่าจากชมพูทวีปซึมแทรกเข้ามา เมื่อมีแขกพราหมณ์แผ่อารยธรรมเข้ามาสู่แถบถิ่น นำพันธุ์ข้าวชนิดใหม่เข้ามาเผยแพร่โดยไม่ต้องนึ่งอย่างเดิม แต่ใช้การหุงในหม้อจึงปรากฏหลักฐานโบราณคดีว่า ในชั้นดินที่ตื้นเขินขึ้นมานั้น มีเปลือกข้าวทรงเรียวกระจายไปทั่วถิ่นที่เคยพบเปลือกข้าวป้อมมาก่อนนั้น นั่นสะท้อนถึงค่านิยมการบริโภคอย่างใหม่เข้ามาครอบงำ จึงเกิดการเพรียกขานชนิดข้าวที่บริโภคอย่างแบ่งแยกชนชั้นขึ้นว่า ?ข้าวเจ้า? และ ?ข้าวเหนียว(ไพร่)? ตามมา พร้อม ๆ กับก่อเกิดวัฒนธรรม ?ชาววัง? กับ ?ชาวบ้าน? ขึ้นด้วย

ในครรลองแห่งความเชื่อก็เช่นเดียวกันดั้งเดิมเชื่อในผีสาง ผีป่าเขา ผีเจ้าเรือน ผีมเหสักข์หลักเมือง ผีบรรพบุรุษ จนกระทั่งแถนเทวดาจากฟากฟ้า ต่อมา ลัทธิพราหมณ์ที่แข็งแกร่งซับซ้อนกว่าค่อยกระจายแทรกซึมเข้ามา ความเชื่อเรื่องเทพต่าง ๆ สวรรคาลัย ทวยเทพ อิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติก็ค่อยกลืนเข้ามาครอบครองพื้นที่ชั้นสูงขึ้นคือความศรัทธา ชะตากรรมถูกกำหนดไว้ในเงื้อมพระหัตถ์เทพอย่างสิ้นเชิง และแล้วเมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชทรงขึ้นครองราชย์ ทรงศรัทธาในตถาคตได้เผยแพร่พระพุทธศาสนา และสร้างพระสารีริกธาตุไปทั่วแว่นแคว้น ณ ดินแดนอุษาคเนย์ก็มิว่างเว้น ทั้งกระแสวัฒนธรรมจีนจากดินแดนเหนือก็แทรกซ้อนในชาติพันธุ์ ทั้งอพยพกระจัดกระจายขยับขยายตั้งหลักแหล่งทั่วภูมิภาคอันเนื่องมาจากความแออัดปริมาณมากหลายนั้นในที่สุดอาณาบริเวณแหลมทองก็มีทวิวัฒนธรรมจากสองเชื้อชาติมามีอิทธิพลจนได้รับสมญานามว่า ?แหลมอินโดจีน?

ครั้นแล้วกระแสนักล่าอาณานิคมก็คืบเข้ามาครอบครองอย่างมิอาจจะปฏิเสธได้ ทั้งวิทยาการเทคโนโลยี วัฒนธรรม ค่านิยมตะวันตกก็แผ่อิทธิพลเข้ามาเหนือวัฒนธรรมค่านิยมเดิมให้ผุกร่อนลงไปเป็นลำดับ

เมื่อต้นปี ๒๕๕๕ ?จินตรัย? ลงไปร่วมกิจกรรมเปิดตัวหนังสือรางวัลซีไรต์ลาว รวมเรื่องสั้น ?กระดูกอเมริกัน? ณ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยนั้น ได้มีโอกาสแวะเยี่ยมเยียนลูก ๆ ที่ตั้งหลักปักฐานและทำมาหากินในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เขาต้อนรับด้วยความยินดี พร้อมกับพาไปเลี้ยงอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด เท่าที่สังเกตและอดแปลกอกแปลกใจไม่ได้ด้วยในชั้นที่มีร้านขายอาหารหลากหลายแข่งขันกันอย่างดุเดือดนั้น มีร้านอาหารไทยเจ้าหนึ่งเช่าพื้นที่ไว้กว้างขวางประมาณกลาง ๆ เป็นทำเลที่ดีเหมาะเหม็งทีเดียว แต่วันนั้นจำได้ติดตาเลยว่าโต๊ะในร้านอาหารไทยอันมีรายการอาหารพื้นบ้านรสเด็ดนั้นว่างโล่งไร้ลูกค้ามาอุดหนุนจนเรารู้สึกใจหายว้าบ หากจำไม่ผิดมีลูกค้ามาอุดหนุนเพียงโต๊ะเดียวจริง ๆ ไม่เกิน ๕ คนเห็นจะได้ ส่วนร้านอาหารฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ที่มาเปิดแข่งขันนั้นมีลูกค้าคนไทยอุดหนุนคับคั่งหนาตาและไม่เว้นแม้แต่คณะของเราก็ไม่เข้าร้านอาหารไทยด้วยเช่นกันจึงมีคำถามผุดขึ้นมาตำใจว่าปัจจุบัน เราคนไทยเปลี่ยนวัฒนธรรมการกินเสียแล้วหรือ !?

ใช่ พฤติกรรมการกินเรากำลังเปลี่ยนไปจริง ๆ เมื่อก่อนเก่าวัฒนธรรมอินเดียและจีนเข้ามาแทรกซึมนั้นอาหารการกินของเราก็ไม่แปรเปลี่ยนไปมากมายนัก ก็กินตามมีตามเกิด ครั้นเมื่อวัฒนธรรมตะวันตกแผ่เข้ามา แรก ๆ เราก็ต่อต้านกันอยู่ แม้ภาษาฝรั่งยังแปลงเป็นสำเนียงไทย ๆ เลย เช่น กัปตัน แฟ้ม ชุดราชปาแตนอะไรเหล่านั้น แต่ปัจจุบันนิยมออกเสียงคำให้เหมือนฝรั่งเปี๊ยบและเนี้ยบไปเลยยิ่งดี เห็นชัดว่าเรานั้นขาดวิจารณญาณมากเกินไปเสียแล้ว น่าเป็นห่วงว่าเราจะขาดภูมิคุ้มกันแบบยกกะบิ เกิดภูมิแพ้ทางวัฒนธรรม มีผื่นขึ้นเต็มตัว จนกลายเป็นท้าวแสนปมยุคใหม่กันหมดแล้ว

และใช่จะเป็นเฉพาะคนไทยเท่านี้หรอกชาวอาเซียนมีแนวโน้มจะเป็นทั้งมวลอีกด้วย

ประชาคมอาเซียนเปลี่ยนการกินซะแล้ว !

เพราะต่างก็มุ่งสู่ประเทศกำลังพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม รวมทั้งค่านิยมแบบตะวันตกจ๋าก็ซึมซับเป็นลำดับขึ้นโดยไม่ต้องสอน เพราะสื่อต่าง ๆ กำลังเสี้ยมทุกขณะวินาที

การกินที่เปลี่ยนนั้นเป็นเช่นไร

ก็คือการกินอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ไขมันอิ่มตัวสูง อาหารพวกทอด อาหารที่มีการปรุงแต่งสำเร็จรูปมากขึ้น เช่น เนื้อเบอร์เกอร์ ไส้กรอกแฮม เบคอน มีผักน้อย แป้งมาก อาหารรสจัด-หวาน-มัน-เค็ม รวมทั้งกินในปริมาณที่มากกว่าปรกติ เหล่านี้เป็นอาหารแบบฝรั่งตะวันตกในประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งสิ้นผลของการกินอาหารฟาสต์ฟู้ดซึ่งมีกากน้อยดังกล่าว เกิดอะไรขึ้น ก็เป็นโรคอ้วน ตัวตนโตเกินขนาดปรกติ และเป็นโรคทันสมัยต่าง ๆ อย่างฝรั่งประเทศพัฒนาเปี๊ยบเลย อันได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นต้น ล้วนเป็นโรคที่ทำการรักษาให้หายขาดได้ยากทั้งนั้นเลย

ในสิบประเทศอาเซียน ประเทศที่ทันสมัยเจริญก้าวหน้าศิวิไลซ์ไฮเทคสมบูรณ์แบบมากที่สุดกว่าเพื่อน ๆ เหมือนอย่างโลกตะวันตกก็คือสิงคโปร์ ซึ่งพฤติกรรมการกินอาหารของคนสิงคโปร์ได้เปลี่ยนไปกินเหมือนฝรั่งทุกประการสิงคโปร์จึงมีประชากรเป็นโรคอ้วน เบาหวานความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มจำนวนมาก มหาวิทยาลัยมินเนโซต้าร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ได้ศึกษาวิจัยติดตามประชากรทั้งชายและหญิงอายุระหว่าง ๔๕ – ๗๔ ปี อันเป็นคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนจำนวน ๕ หมื่นกว่าคน ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ? ๒๕๔๑ รวมทั้งศึกษาอุบัติการณ์ของโรคเบาหวานในจำนวนประชากร ๔ หมื่นกว่าคน ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๔๒ – ๒๕๔๗ พบว่าคนที่กินอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อยถี่มากเท่าใดยิ่งเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากกว่ากลุ่มประชากรที่กินน้อยราวร้อยละ ๒๗ และมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากกว่าประชากรกลุ่มที่กินน้อยถึงร้อยละ ๕๖ ทีเดียวซึ่งทั้งสองอุบัติการณ์นี้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีการวิเคราะห์รวมไปถึงการกินอาหารชนิดอื่น ๆ ปริมาณพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน รวมถึงเรื่องน้ำหนักตัวด้วย ทั้งยังพบว่าชนิดของอาหารที่กินมีความสำคัญต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจอีกด้วย

ช่วงเวลากว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมานี้ด้านสาธารณสุขบ้านเราก็เกิดอุบัติการณ์โรคเบาหวานเพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็นลำดับมา ไม่น่าเชื่อว่าโรคนี้เราจะต้องเผชิญกันถ้วนหน้าเช่นนี้มาก่อน ต่อมาลูกหลานเราก็เผชิญกับโรคอ้วน ตัวใหญ่โตเกินขนาด ความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคมะเร็งอีกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่เฉพาะบ้านเราหรอกเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียนก็เป็นกันถ้วนหน้านับวันจักเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ

นี่เป็นตัวบ่งชี้ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิ่งเราพยายามผลักดันประเทศให้ทันสมัยศิวิไลซ์ไฮเทคเท่าเทียมกับตะวันตกมากขึ้นเท่าใด ยิ่งเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารอย่างตะวันตกมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญลูกหลานของเรามีแนวโน้มเปลี่ยนค่านิยมการบริโภคอย่างตะวันตก ถือว่าทันสมัยง่าย ๆ สบาย ๆ ไฮโซ ไฮเทค จากสื่อต่าง ๆ ที่เสพติดกันถ้วนหน้า จนละเลยของกินพื้นบ้านที่มีผักมีกาก จะทำให้สุขภาพร่างกายสมดุล ห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ

ข้อมูลที่น่าสนใจในการศึกษาพฤติกรรมการกินอาหารแบบฟาสต์ฟู้ด มักจะเป็นผู้มีการศึกษาสูง มีอายุน้อย มีอัตราการสูบบุหรี่น้อย และชอบออกกำลังกายมากกว่ากลุ่มคนที่กินอาหารพื้นบ้านแบบตะวันออก อาหารฟาสต์ฟู้ดตะวันตกนั้นมีกากน้อย มีผลิตภัณฑ์นมน้อย แต่มีแป้ง น้ำตาล ไขมันเนื้อ มีรสเค็มด้วย มีส่วนผสมเกลือแกงปริมาณสูงในอาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ หากกินอาหารฟาสต์ฟู้ดมากถึง ๔ ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป คนกลุ่มนี้มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากถึงร้อยละ ๘๐

ชาวอาเซียนที่รัก

เราจะทำเช่นไรที่จะโน้มน้าวลูกหลานคนรุ่นใหม่ของเราให้มีค่านิยมการบริโภคอาหารพื้นบ้านมากขึ้น ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินเข้าหาฟาสต์ฟู้ดเสพติดจนเกินจำเป็น จนสามารถตระหนักถึงภัยในโรคร้ายแรงที่ไม่พึงปรารถนาทั้งหลายนั้น

ก่อนอื่น เราต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองแล้วล่ะ !

ขอขอบคุณ
ข้อมูลเชิงลึกบางส่วนจากบทความในคอลัมน์ชีวิตสุขภาพ เรื่อง ?พฤติกรรมการกินอาหารของคนสิงคโปร์ที่เปลี่ยนไป มีผลต่ออัตราการเกิด ?โรคหัวใจและหลอดเลือด? ของ คุณหมอวีระชาติ เลิศนิธิกุล วารสารข่าวคริสตจักร ปีที่ ๘๐ ฉบับที่ ๗๔๗ เดือนกันยายน ๒๐๑๒.

Related Posts

ภาพพระเตมีย์ บนใบเสมาทวารวดีอีสาน
ต้นกำเนิดนิทาน “ตาเจี้ย ตาลูน – ปลาบู่ทอง – เต่าคำ และซินเดอเรลล่า”
เมืองฮม เมืองโบราณกว่า ๔๐๐ ปี ของลาว

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com