อายหลาวก๊ก 哀牢国
คําว่า “อายหลาว” 哀牢 มาจากภาษาไท/ไตว่า “อ้ายหลวง” ในช่วง ๕ ศตวรรษก่อนคริสตกาล บรรพชนไต/ไท แถบตอนกลางของแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวิน มีศูนย์กลางอยู่ที่ “เมืองช้าง” (“勐掌” “เมิงจ่าง”, ภาษาฮั่น เรียกว่า “เสิงเซี่ยงกั๋ว” “乘象国” หรือ “เมืองขี่ช้าง”) เป็นศูนย์กลางของสหพันธ์นครรัฐ (อยู่ชาติพันธุ์วรรณาแถบอำเภอเป่าซานปัจจุบัน ซึ่งในยุคสามก๊ก เรียกว่า “หย่งชาง-เวงเซี้ยง) ประมุขเมืองช้าง เรียกว่า “เจ้าหลวง” ( ภาษาจีน “จิ่วหลง 九隆”) ประมุขแต่ละเมืองเรียก “อ้ายหลวง” (“哀隆” แปลว่า “พี่ใหญ่” ภาษาจีนฮั่นถอดคำเป็น “อายหลาว哀牢”)
ตระกูลภาษา “ไท-กะได” กับ ไป่เยวี่ย (๒)
คุณเหลียงถิงหวั่ง เชื่อว่า บรรพชนของชาวเผ่าจ้วง (ขณะที่ยังมิได้แยกเป็นชาติพันธุ์ตระกูลภาษาตระกูลต้ง-ไถ) มีความเกี่ยวพันกับชนเผ่าโบราณที่ปรากฏชื่อในบันทึกโบราณของจีน เช่น ชนเผ่าซีโอว 西瓯 ลั่วเยวี่ย 路越 ชางอู่ 仓吾 ซุ่นจื่อ 损子 กุ้ยกั๋ว 桂国 จวี้ถิง 句町 เย่หลาง 夜郎 ผู่ 濮 โล่วว่อ 漏卧 อู่เลี่ยน 毋敛 เป็นต้น
ชาวนุง ในเวียดนาม The Nung people in Vietnam
ชาว “นุง” ตำราภาษาไทยมักจะเรียกว่า “ไทนุง” แต่อาจารย์ทองแถมบอกว่า เคยคุยแลกเปลี่ยนกับนักวิชาการชาวนุงหลายท่าน พบว่า พวกเขาเรียกตัวเองว่า “นุง” หรือ “คนนุง” มิได้เรียกคัวเองว่า “ไท”
ตระกูลภาษา “ไท-กะได” กับ ไป่เยวี่ย
ปัจจุบันนี้ วงวิชาการยอมรับกันแล้วว่าชน “ไป่เยวี่ย” สายหนึ่งเป็นบรรพชนของชนชาติในตระกูลภาษา ไท-กะได ก็เลยเกิดปรากฏการณ์ มีการไปเรียกพวกไป่เยวี่ย สาขาที่อยู่ตอนเหนือ คือ แถบเจ้อเจียง-เซี่ยงไฮ้ (เรื่องราวของ โกวเจี้ยน ฟูไช นางไซซี) ว่าเป็นคนไท/ไต
ตระกูลภาษา “ไท-กะได” กับ ไป่เยวี่ย (๓)
จากการศึกษาวิจัย “ตัวอักษร” บนกระดูกทำนาย (เจี๋ยกู่เหวิน 甲骨文 ) ทำให้ทราบว่า ในยุคราชวงศ์ซาง 商 ซึ่งระบบตัวอักษรภาษาจีนเริ่มจะพัฒนาเจริญสุกงอมแล้ว ชื่อ “เยวี่ย” เป็นชื่อของกลุ่มชนที่มีความแตกต่างจากคนของราชวงศ์ซาง แต่นั่นก็มิใช่เรื่องที่จะนำมาอ้างอิงอธิบายได้ว่า กลุ่มคนเยวี่ยเพิ่งจะมีกำเนิดเกิดขึ้นในยุคนั้น (สามพันปีมาแล้ว) เพราะกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า “เยวี่ย” นั้น ควรจะมีอยู่นานแล้ว ก่อนที่จะเกิดตัวอักษรขึ้น มิใช่ว่าผู้คนกับตัวอักษรคำว่า “เยวี่ย” จะกำเนิดขึ้นพร้อมกัน
ปาก๊ก 巴国 (จบ)
ต่อมาในยุคชุนชิว แคว้นฉู่เริ่มมีกำลังเข้มแข็งขึ้น ผลักดันให้เขตแดนของ ปาก๊ก ต้องเลื่อนถอยไปทางทิศะวันตกเรื่อย ๆ หนังสือ “ฮัวหยางกั๋วจื้อ” บรรพ “ปาก๊ก” 。《华阳国志•巴志》 บันทึกว่า “ปา กับ ฉู่ ทำสงครามกันหลายครั้ง”