ขัตติยา กรรณสูต
(นิสิตจุฬาฯร่วมรุ่นร่วมกิจกรรมกับ จิตร ภูมิศักดิ์)
น้องสาวอิศรา อมันตกุล – เพื่อนสนิท “นายผี”
ช่วงหนึ่งชีวิตของดิฉัน ตอนนั้นพี่ผีเป็นเพื่อนสนิทกับพี่อิศร์ ดิฉันเรียนอยู่มัธยมห้า อยู่โรงเรียนสตรีวิทยา แล้วพี่ผีเนี่ยแกจะมาทำงานแต่เช้า สถานที่ทำงานแกอยู่สนามหลวง เพราะฉะนั้นแกก็ขึ้นรถมาลงบ้านดิฉัน ถนนข้าวสาร แล้วแกก็ไปนั่งทานโอยั๊วะนะคะ ไม่ใช่โอเลี้ยง ก็ปาท่องโก๋อะไรประมาณนี้ แล้วเขาก็คุยกับพี่ชายฉันคือพี่อิศร์สักพักนึง แล้วแกก็ค่อยไปทำงาน เพราะฉะนั้นพวกเราก็สนิทกันมาก เพราะดิฉันไปซื้อกาฟงกาแฟให้แก กาแฟดำไม่ใส่นมก็ต้องข้ามฝั่งไปซื้อ ร้านนี้มีชื่อเสียง เป็นคนจีนแต่ว่าภรรยาเป็นลาว พี่ผีก็คุยกับภรรยาเขาชัดเจนมาก เพราะแกพูดได้หลายภาษา
ที่บ้านเนี่ยพี่ผีมาเพราะอันที่หนึ่งมีหนังสือเยอะ อันที่สองมีที่พักผ่อนนอนหลับได้สบาย ตามใจเป็นกันเอง บางทีแกก็ยังนั่งเฝ้าบ้านให้ด้วยซ้ำ อันที่สามมีหนังสือที่จะค้นคว้า ดิกชันนารี บริเตนนิก้า อะไรพวกนี้เรามีหมด เพราะคุณพ่อสั่งเป็นตู้ ๆ เลยนะคะ แกก็ไปเปิด ไอ้ตู้นี่จะติดกับห้องรับแขก เพราะฉะนั้นพี่ผีนี่สนิทสนมกันก็เดินไปนั่งอ่านหนังสือในห้องอีกห้องหนึ่งได้ แล้วก็นอกจากนี้ก็ยังมีนักประพันธ์เยอะแยะค่ะที่มาที่บ้าน คนสำคัญที่อยากเอ่ยชื่อก็คือคุณสุวัฒน์ วรดิลก นี่ค่ะก็มา คนสำคัญอีกคนนึงก็คือ จิตร ภูมิศักดิ์ จิตรนี่เป็นเพื่อนเรียนเตรียมมาด้วยกัน จิตรเรียนเตรียมอักษรศาสตร์ ดิฉันเรียนเตรียมวิทยาศาสตร์
แล้วบางทีกลางวันถ้าแกว่าง ๆ แกจะชอบไปที่บ้านจะมีด้านข้างห้องรับแขกเป็นห้องโถงใหญ่ แล้วรอบ ๆ จะปลูกต้นไม้ ต้นชมพู่ข้างหนึ่ง อีกข้างก็เป็นต้นมะม่วง จะมีเปลญวน แกก็ชอบไปนอนเปลญวนน่ะค่ะ แล้วที่บ้านมีอีกห้องนึง จะให้คุณลุงเช่า ลุงเป็นคนขับสามล้อเจ้าประจำพี่อิศร์ แล้วของพี่ผีด้วย เวลาแกไปทำงานไม่ทัน เขาเรียกเจ้าเนี้ยชื่อลุงจ่างนะคะ เป็นสารถีประจำตัวไม่ต้องไปหากินที่อื่น
แล้วก็พวกนี้ก็ไปนั่งบ้านดิฉัน อย่างจิตร ภูมิศักดิ์ เนี่ยเป็นเพื่อน แล้วเขาก็ยังชอบคุยกับอาจารย์มหาฉ่ำ ทองคำวรรณ เพราะท่านเป็นคนใจดี ก็มานั่งคุยกัน เขาก็ได้ความรู้จากมหาฉ่ำไปเยอะทางด้านภาษาขอม แล้วลูกสาวของมหาฉ่ำ ชื่อสุวรรณานี่ก็เป็นเพื่อนกัน เรียนชั้นเดียวกัน แล้วก็อยู่ชั้นเดียวกับจิตร
พี่ผีก็ได้คุยกันในกลุ่มเหล่านี้นะคะ จิตรเขาเป็นรุ่นเด็ก แต่เขามีความรู้มาก จิตรเองก็อ่านพระคัมภีร์กุรอ่านได้ แต่ไม่เท่าพี่ผี ไม่ทราบแกไปเรียนจากไหน แกคงพูดยาวีอะไรพวกนั้นได้ ที่จริงมันคนละภาษากันนะ ภาษาในพระคัมภีร์มันเป็นภาษาอาหรับ แล้วก็เป็นประเภทคลาสสิก ยาวีก็เป็นตัวสะกดเดียวกันในสมัยก่อน จนกระทั่งเดียวนี้ตัวสะกดเป็นภาษาอังกฤษ
พี่อิศร์พูดถึงพี่ผีมากค่ะ เพราะท่านเป็นเพื่อนรักกัน พี่อิศร์พูดว่าเป็นคนดีที่โลกไม่ต้องการ ในช่วงนั้นนะคะ คือมีความสามารถหลายอย่าง แต่เผอิญไม่เป็นที่พึงปรารถนาของรัฐบาล
พี่ผีเขามีชื่อเสียงไม่ใช่ทางอัยการ แต่ชื่อเสียงเขาทางวรรณกรรม แล้วถ้าจะพูดว่าเป็นอาจารย์สอนการเมืองท่าจะเก่งกว่า คือท่านอาจจะผิดฝาผิดตัวมั้งที่ไปเป็นอัยการ แต่ในแง่ของความยุติธรรม social justice ก็โอเคนะคะ ตรง แต่ว่าในช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่ไม่เหมาะ ท่านเกิดผิดยุคผิดสมัยอะไรทำนองนั้น เหมือนกันกับจิตร เราก็ยังเคยพูดเลยว่า ยูเกิดผิดสมัยนะเนี่ย ผู้เกิดก่อนกาล
พวกนี้ทั้งหลายทั้งปวงก็เกิดก่อนกาล แต่พี่อิศร์นี่ค่อนข้างจะเป็นคนสุขุมนะ แกจะไม่ค่อยวิพากษ์วิจารณ์อะไรเท่าไหร่ แต่แกเขียนนะคะ แกจะเขียนต่อต้าน แล้วแกก็ทำโรงพิมพ์ที่บ้าน สมัยก่อนบ้านเราจะมีตึกแถวอยู่ข้างหน้า หารายได้ให้คนเช่า ทีนี้ตึกแถวของที่บ้านมีส่วนของบ้านติดกัน อาจารย์ฉ่ำจะอยู่เนี่ยนะคะ แต่ของเราสองห้องทำเป็นโรงพยาบาลสัตว์เพราะพี่ชายจบสัตวแพทย์มา ก็ฉีดยาหมาเนี่ยนะคะ แล้วพี่อิศร์ก็บอกมันไม่ค่อยได้รายได้ เพราะฉะนั้นห้องมันก็เลยว่าง ๆ พี่อิศร์ก็เลยทำสำนักพิมพ์ ตั้งแท่นพิมพ์อะไรต่ออะไร หลายชื่อค่ะ เปลี่ยนหัวกันบ่อย ๆ สันติบาลมายึดทีก็เปลี่ยนที ชื่อเล็ก ๆ นะคะ เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ อะไรทำนองนี้ ชื่อ ‘เสรีชน’ มั้ง แล้วก็หลังจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อเพราะสันติบาลมายึดบ่อยเลย พี่อิศร์ก็เป็นผู้จัดการพิมพ์ รวมทั้งปรู๊ฟอะไรเสร็จในตัว มีผู้ช่วยคือลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง แล้วก็มีคนที่ช่วยเก็บกวาด แล้วก็มีช่างเรียงพิมพ์
โดยบุคลิกนี่เราสังเกตได้เลยนะ พี่ผีเป็นคนเงียบมาก ท่านจะไม่ค่อยคุยนะคะ ยกเว้นกับคนที่สนิทกับพี่อิศร์หรือจิตรก็จะคุย กับดิฉันก็อย่างว่าเราก็ไม่รู้จะคุยอะไร แต่ดิฉันคิดว่าโดยทั่วไปท่านจะไม่ได้เป็นคนที่ human relations ดี ท่านไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใสอะไรเท่าไหร่ ค่อนข้างเครียด ใส่แว่นตาหนาเตอะ แล้วขาดแว่นตาไม่ได้ พอวางแว่นตาหายแล้ววุ่นวายมาก เดินไม่ถูกอะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ ตาท่านจะสั้นมาก
ความเป็นนายผีคือความคงแก่เรียน ถ้าเผื่อเห็นพี่ผีเดินผ่านก็คงไม่รู้ว่าแกคือศิลปินที่โด่งดัง มีชื่อเสียงของเมืองไทยหรอก เพราะแกไม่เคยแสดงตัว เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย อ่อนน้อมอะไรอย่างนี้ คุณแม่ดิฉันถึงได้รักมาก ชีวิตของแกในทุกช่วงเวลาเนี่ยคือการเรียนรู้ แกจะต้องเข้าไปเปิดดิกชันนารีอะไรอย่างนี้ แกจะใช้เวลาทุกช่วงวินาทีในการเรียนรู้
ท่านติดหนังสือมากเลย อยู่ที่ไหนจะต้องอ่านหนังสือ อ่านตั้งแต่กระดาษห่อกล้วยแขกจนกระทั่งถึงหนังสือเอนไซโคพิเดีย นั่นล่ะค่ะคือนายผี.