Category

วรรณกรรม

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 10

เมื่อคราวที่จารย์บุญและจารย์แก้วกับอีแพงเมียข่า พร้อมครอบครัวชาวข่าจำนวนหนึ่งลงมาจากยอดภู พวกเขาก็เดินทางเข้าตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ดินแดนห้วยขุหลุ อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนแต่เดิมมาของจารย์บุญ ฝ่ายเฒ่าแก่และหมู่ญาติก็พากันทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 9

วันหนึ่ง, เมื่อคณะของหลวงสากลกิจฯเสร็จการตรวจตราการทำแผนที่แล้วเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ฉันยังมีคำสั่งให้ช่วยพระยอดเมืองขวางทางด้านนี้อยู่ หมื่นประจักษ์สนิทนึกก็ชักชวนฉันขึ้นท่าที่เมืองนครพนม “ผมรู้ว่าท่านห่างบ้านห่างครอบครัวมานานชวนไปแสวงหาความสำราญคงไม่ว่าอะไร?” “จะว่าอะไรได้” ฉันบอก “นั่งดื่มเหล้าเว้าความลาวแล้วเมาหลับไป ทำกันอยู่บ่อย ๆ” “หามิได้ขอรับ บริวารผมที่นครพนมมีความสำราญอย่างใหม่” “บอกได้มั้ย ว่าความสำราญนั้นเป็นอย่างใด?” “ท่านต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองขอรับ”

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 7

นายจำรัส ดนัยมนัสราษฎร์ เปิดบันทึกจางวางดนัยมนัสราษฎร์อ่านต่อไปแบบวางไม่ลง ท่านเจ้าคุณปู่ได้วางโครงวางแนวไว้ชวนติดตามแทรกเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งวิเคราะห์และวิจารณ์อย่างผู้ทรงภูมิรู้ เมื่อเอาข้อความของผู้ใดมาจะบอกไว้ว่าอ้างอิงจากหนังสือเล่มนั้นและเล่ม นี้ แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้เคารพผู้อื่น ถ้าอ้างถึงคนอื่นว่ากล่าวถ้อยร้อยความอย่างใด ท่านก็จับใจความ มาแต่เฉพาะความจริง ไม่ใช่นำมาตีไข่ใส่น้ำทำให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนและเป็นเท็จ แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความเป็นธรรม จึงรักษายุติธรรมไว้ได้

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 4

อีกวันหนึ่งในปีนี้, มีชายวัยประมาณสี่สิบปีเศษ หน้าตาคมสัน ร่างสันทัด ผิวสีดำแดงแกร่งก้าน ท่าทางมั่นอกมั่นใจในตนเองเป็นอันมาก เว้นแต่

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 3

จารย์บุญเห็นเพื่อนดิ้นรนจนปัญญา จึงได้แต่กล่าวเตือนออกไปว่า... เซื้อซาดจ่อง คันจ่องยังกะหุบ  ซาตาหลุบหลูบลงคือจ้อง ยามเมื่อซาตาขึ้น ขวางเป็นขอนก็ยังล่อง คาดสิล้ม มือหยุ้มหญ้ากะบ่พัง เสี่ยวเอย... จารย์แก้วคิดได้ฉับไวสมกับเป็นผู้สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ก็กล่าวท้าชายฉกรรจ์เหล่านั้นว่า จงมาพิสูจน์กัน ข้าขอท้าสู้กับพวกเอ็ง เพื่อให้เห็นว่าผู้มีสัจจะย่อมไม่ตาย ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 2

“เวียงจันทน์เศร้า สาวเอยอย่าฟ้าวว่า มันสิโป้บาดหล่า บักแตงช้าง หน่วยปลาย เวียงจันทน์เศร้า เป็นโพนหมาขี้จอก บาดว่า บางกอกฮ้าง ยังสิได้เพิ่งเวียง ดอกนาฯ”

วรรณกรรมพินิจ “ทาง” ของ ปรีดา ข้าวบ่อ โดย ชลธิรา สัตยาวัฒนา

ดิฉันอ่าน “ทาง” ผลงานรวมบทกวีของคุณปรีดา ข้าวบ่อ อย่างรวดเร็ว ได้ข้อสรุปในใจชัดเจน จะขอเริ่มต้นพูดคุยแลกเปลี่ยนเลยนะคะ ถ้าจะจับ ‘ทางกวี’ ของคุณปรีดาในแง่ของความเป็น “อรรถกวี”

บักตูบ

บักตูบเป็นสุนัขแสนรู้ เป็นเพื่อนคู่ของคำหวึ่งมาตั้งแต่เล็กจนโต คำหวึ่งโตขึ้นสาวรุ่นเข้ากรุงเทพฯ ไปทำงานที่โรงงานทอผ้า ปีต่อมาคำหวึ่งกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่งตัวเป็นสาวกรุงเทพฯ ทันสมัย

หมดฤทธิ์

มีคำร่ำลือว่าพ่อเฒ่าบุญเลิศ ชาวบ้านบุ่ง เป็นคนชอบสนุก เห็นสาวน้อยวัยขบเผาะที่ไรมัก หยอกล้อแซวเล่น เป็นประเภท “คนแก่ตัณหา กลับ”

อนิจจา

การออกบิณฑบาตเป็นการโปรดสัตว์แก่ พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย พระสงฆ์อันเป็นสาวก ของพระพุทธเจ้าสามารถดำรงอยู่ได้

ตด

“อ่วม…บ่แม่นเฮาหลงซื้ออาหารปลอมมากินซะบ้อ?” พ่อเฒ่าหมานเว้ากับบักอ่วมผู้เป็นลูกเขย “บ่ดอก…ข่อยซื้อหยังมากิน ข้อยสิพิจารณาเลือกอย่างละเอียด บ่มีของปลอมดอกน่า!”

ลายแถนฟ้า (ตอนที่ ๑๙)

ชาวปรางค์กู่รวมตัวกันมาประชุมที่ศาลากลางหมู่บ้าน กำนันทองหลางแม้จะเป็นประธานแต่ก็นั่งเงียบ พ่อเฒ่าคำผุยทั้งที่เป็นหมอจ้ำของหมู่บ้านก็เงียบอีกคน
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com