Category

อีสานบ้านเฮา

ขี้ลืม

พ่อเฒ่าลมถือพร้าจะออกไปทุ่งนาบ้างแกเดินทางผ่านป่าละเมาะ แกเกิดปวดท้องขี้ขึ้นมากะทันหัน! ก็เลยจะขี้ที่ป่าละเมาะนั่นซะเลย พ่อเฒ่าลมทิ้งพร้าลงบนพื้นดิน แกถอดกางเกงนั่งยอง ๆ ลง แล้วขี้! ในขณะที่แกนั่งขี้อยู่นั้น พ่อเฒ่าลมเหลือบเห็นพร้าเล่มที่แกทิ้งวางไว้ต่อหน้าแกนั่นแหละ! แกลืมและจำไม่ได้ แกเข้าใจว่าเป็นพร้าคนอื่นลืมทิ้งไว้!

ห่ากวาดเมือง

“พ่อเฒ่า! การจ้ำแจ่วโบราณว่ามีสามวิธีเด้อ!” “มีวิธีใดแหน่ เว้ามาเลย...สาธิตพร้อมเด้อ! จั่งสิเข้าใจ” พ่อเฒ่าอุ่นว่า “หนึ่ง...โบราณว่า แฮดนอนซำ...” ว่าแล้วบักก้อนก็เอาข้าวเหนียว ที่ปั้นเป็นก้อนพอดีเคี้ยวเป็นคำได้สะดวก จุ่มแช่ลงในถ้วยแจ่ว...มันแช่ไว้นาน น้ำแจ่วก็ซึมเข้าไปในคำข้าว พอมันยกคำข้าวมาเข้าปากน้ำแจ่วในถ้วยก็ลดวูบลง! พ่อเฒ่าอุ่นมองดูถ้วยแจ่วที่น้ำแจ่วลดลง พ่อเฒ่าอารมณ์ก็จ้องดูถ้วยแจ่วเหมือนกัน ! “ฮ่วย! แจ่วคือเหลือน้อยแท้?”

สงสารเมีย

วันหนึ่ง บักเลิศมันไปหาปลา มันมีโชคได้ปลาช่อนตัวใหญ่มาหลายตัว พ่อเฒ่านึกก็ไปชักชวนเพื่อนคอเดียวกันมาตั้งวง โดยมีปลาช่อนเผาเป็นกับแกล้ม และในวงเหล้าวันนั้น มีพ่อเฒ่านวน กับพ่อเฒ่าเดช มาร่วมสังสรรค์ด้วย ความสุขและม่วนซื่นในวงเหล้าจึงเกิดขึ้น ! “เป็นใด๋เสี่ยวนึก...กินเหล้าหลาย บักน้อยโต๋มันได้เรื่องอยู่บ้อ?” เสียงพ่อเฒ่านวนถามพ่อเฒ่านึก แต่พ่อเฒ่านึกไม่ตอบ มีแต่อมยิ้ม แล้วก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม พ่อเฒ่านวนเห็นว่าพ่อเฒ่านึกไม่ตอบก็หันไปถามพ่อเฒ่าเดช “หมอเดชเด๋...บักน้อยโต๋เป็นจั่งใด๋?” “เรื่องนั้นโต๋บ่ต้องถามเฮา...อาทิตย์ละสองยืนพื้น!”

ลูกข้อยเด้อ

พ่อเฒ่าจารย์คูนมี ไทบ้านโพนสว่าง นับว่าเป็นเฒ่าบ้านเฒ่าเมือง อยู่ในศีลธรรมอันดีงามครองตนอยู่ในฮีตสิบสองคองสิบสี่ ตามประเพณีของคน “ทางอีศาน” มาอย่างสมํ่าเสมอ

ผลัดกันทํา

“พ่อเฒ่า…มื้อก่อนโน้นข่อยเห็นเจ้าซักผ้ามื้อวานนี้เห็นเจ้าถูบ้าน มื้อนี้เห็นเจ้าเข้าครัวเฮ็ดกับข้าว แม่เฒ่าไปไส…คือมีแต่เจ้าเฮ็ดเวียกคนเดียว?” “กูกับแม่เฒ่ามึงตกลงกันแล้วว่า ผลัดเปลี่ยนกันเฮ็ด!”

แนะนำนักเขียนใหม่ “หลานเหลียน” เปิดคอลัมน์ “บอกฮักด้วยพาข้าว”

“หลานเหลียน” สาวอีสาน ในวัยสามสิบต้น ๆ จากขอนแก่น เมืองหมอแคนดินแดนดอกคูน ผู้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งงานด้านวิชาการและธุรกิจ แบบคนรุ่นใหม่ แต่ด้วยความภูมิใจในฮีตคอง ขนบธรรมเนียมประเพณี อีสานบ้านเกิด

ทองเปลี่ยน

บักทองก้อน มันเป็นลูกเขยพ่อเฒ่าทองเปลี่ยน มันชื่นชมพ่อเฒ่าของมันมากที่มีความสามารถในการเป่าแคน แต่ละวันเพลินกับเสียงแคนที่พ่อเฒ่าทองเปลี่ยนเป่าลายแมงภู่ตอมดอก ลายสุดสะแนน ลายแม่ฮ้างกล่อมลูก ฟังแล้วไพเราะจับใจเหลือเกิน

ข ว ย จี ห ล่ อ

“แม่นไผ บักใด๋เข้ามาขุดจีหล่อในวัดน่ะ บาปตกนรกหมกไหม้เด้อ บ่ได้ผุดบ่ได้เกิดเด้อ สิบอกให้ หยุดเด้อ! บาป ๆ” พูดแล้วหลวงพ่อก็ รีบเดินเข้าหาคนขุดจีหล่อ! พอหลวงพ่อเดินเข้าไปใกล้คนขุดจิ้งหรีด จึงเห็นว่าเป็นบักแก้วผู้เป็นลูกเขย “ที่ข่อยมาขุดจีหล่อนี่ก็จะเอาไปทอดมา ถวายหลวงพ่อนี่ละ!”

คำเต็มของ ตม.

พันตำรวจโทคำแพง เป็นนายด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นครพนม ท่านมีลูกสาวสวย สิบตำรวจโทคำตา ประจำอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ทำงานดีมาก จึงมีโอกาสได้เป็นลูกเขยของพ่อเฒ่าพันโทคำแพงแบบไม่ยากนัก

ปีวอก

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ “ทางอีศาน” จำนวนมาก มีความเชื่อในการดูดวงชะตาราศี รวมถึงพ่อเฒ่าขำด้วยพ่อเฒ่าขำแกเป็นคนเชื่อเรื่องโชคลาง มักจะไปดูดวงชะตากับหมอดู ที่เขาลือว่าดูแม่นเสมอ ๆ แม้ระยะทางจะห่างไกลไปหน่อย พ่อเฒ่าขำก็จะไปดูดวงให้ได้ โดยอาศัยขอแรงให้บักสีผู้ลูกเขยขับรถพาไปดูดวงอยู่บ่อย ๆ บักสีมันก็ต้องทนปฏิบัติตามใจผู้เป็นพ่อเฒ่าของมัน

ที่ บ้ า น ก็ มี

บักน้อยจอมกะล่อน มันว่างงานอยู่บ้านกับพ่อเฒ่านมสองต่อสอง “พ่อเฒ่า...ช่วงนี้รถข้อยว่าง บ่ค่อยมีงานไปหากินเหล้า เว้าหยอกสาวน้อยกับข้อยบ่?” บักน้อยเอ่ย “ไปกินอยู่ไสล่ะ” เข้าทางพ่อเฒ่านมอีกแล้ว “ร้านหลบเมีย! ร้านนี้ลับตาคนดีมาก ผมเคยไปมาแล้ว มีสาวน้อยจากประเทศเพื่อนบ้านบางคนอ๊อฟได้เด้อ สิบอกให้...เฮามาพากันหลอยไป ดีไหม?”

เ ส า ห ลั ก ฮั้ ว

พ่อเฒ่าช้าง เป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวและยาดอง แต่ละวันถ้ามีเพื่อนพ้องน้องพี่มาชวนก็เป็นต้องตอบสนองทันที หรือยามไม่มีใครชวนก็เป็นฝ่ายออกปากหาพวกเสียเอง เมื่อได้เพิ่มดีกรีเข้าไปหน่อย คำพูดความคุยก็เริ่มพรั่งพรูออกมา แต่ละคนในวงเหล้า จะมีเรื่องสัพเพเหระเล่าสู่กันฟัง บางเรื่องมีเนื้อหาสาระความรู้ บางคนก็เล่าเรื่องตลกขบขัน แกล้งกันในวงเหล้าก็เคยมี แต่ก็ถือเป็นเรื่องสนุกสนาน ไม่ถือสากัน แม้เป็นเรื่องโป้หรือคำหยาบบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกติ

ข้ า ว จุ ก ค อ

สองพ่อลูกรักผูกพันกันมาก เนื่องจากลูกชายเป็นเด็กช่างพูด ถึงจะช่างพูดแต่ก็น่ารักสองพ่อลูกไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ต่อมาวันหนึ่งพ่อชวนลูกชายไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างหมู่บ้านเพื่อนของพ่อดีใจมากถึงกับจับไก่มาเชือดทำลาบเป็นอาหาร แถมยังจับปลาในบ่อมานึ่งอีกต่างหากเมื่อได้เวลากินข้าว เพื่อนของพ่อพร้อมด้วยครอบครัว เชิญสองพ่อลูกให้กินข้าวด้วยกัน ผู้เป็นพ่อมีข้อบกพร่องประจำตัวที่แก้ไม่หาย นั้นคือเมื่อกินข้าวคราวใดมักจะเกิดอาการข้าวจุกคอ ทางเดียวที่ช่วยได้คือต้องกินนํ้ามาก ๆ

กินข้าวป่า (๒)

กินข้าวป่าครั้งนี้ นอกจากต้มปลา ปิ้งกบแล้ว ผมสนใจเรื่องปูนา เพราะเพื่อนคนที่ชวนพวกเรามากินข้าวป่า เขาถนัดเรื่องทำอาหารจากปูนามาก เริ่มจากพวกเราลงลุยนํ้า จับปูใส่ถังนํ้ามีปูอ่อน ปูแก่ ตัวเล็กตัวโตเอาหมด ได้ปูเยอะพอสมควร เราก็มาแยกปูออกล้างนํ้าให้สะอาด ปูอ่อนยังตัวนิ่ม ๆ สีขาว ๆ ส่วนปูไข่ตัวโตกระดองใหญ่ไข่เต็มท้อง ปูตัวขนาดกลางกระดองยังแข็งมากนักก็นำมาทำ “ตำปู”

พื้นสืบ

“พื้นสืบ” ในภาษาลาว หมายถึง เรื่องเล่าพื้นบ้าน มีเนื้อหาเล่าถึงประวัติของ บุคคล, เหตุการณ์, สถานที่, ชุมชน, บ้านเมือง ฯลฯ ดั้งเดิมเป็นวรรณกรรม “มุขปาฐะ” คือเรื่องเล่า ต่อมาเมื่อเริ่มมีการเขียนบันทึกเชิงประวัติศาสตร์ เนื้อหาของพื้นสืบถูกปรับปรุง ถูกตัดทอน ให้ดูเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ทางอีสานบ้านเรา เรียกวรรณกรรมประเภทนี้ว่า “หนังสือพื้น”
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com