โศกนาฏกรรมการก่อเกิดบ้านเหล่าใหญ่ ทัวร์วัฒนธรรมอีศาน – ลึกซึ้งรากเหง้าวิถีพี่น้องผู้ไท
การอพยพย้ายถิ่นผู้ไทเหล่าใหญ่
บรรพชนคนผู้ไทเคยยิ่งใหญ่มาเก่าก่อน แต่ด้วยเหตุที่มีนิสัยรักความสงบ ชอบความอิสระ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ชอบอาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่มีชายป่า เชิงภูเขา ชอบทำการเกษตร มีภาษาพูดเป็นภาษาผู้ไท มีวัฒนธรรมประเพณีเป็นของตนเอง บรรพบุรุษของคนผู้ไทอยู่ที่เทือกเขาอัลไต เมืองน่านเจ้า ไม่ชอบการปกครองของฮ่องเต้เมืองจีน จึงได้อพยพมาสร้างบ้านแปงเมืองอยู่สิบสองปันนา สิบสองจุไท เรียกเมืองนาน้อยอ้อยหนู เขตรอยต่อระหว่างประเทศเวียดนาม กับประเทศลาว
ปีที่สร้างพระธาตุพนมในตำนานอุรังคธาตุ
พระธาตุพนมเป็นศาสนสถานสำคัญของลุ่มแม่น้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุหัวอกของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า “อุรังคธาตุ” ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม สถานที่ตั้งขององค์พระธาตุพนมเป็นเนินดินสูงกว่าบริเวณโดยรอบประมาณ ๒ เมตร เรียกตามตำนานอุรังคธาตุว่า “ภูกำพร้า”
เงินตราโบราณ ในอีสานบ้านเฮา (ตอนที่ ๒)
เงินฮ้อยคือเงินที่มีนํ้าหนักสิบบาท แต่คนลาวจะเรียกว่าฮ้อยหนึ่งหรือร้อยหนึ่ง อนึ่ง เงินฮ้อยมิใช่เงินที่หล่อด้วยเงินแท้ ๆ เป็นเงินชนิดปน คือเขาเอาทองสำริดหรือทองขาว (ทองแดงหรือดีบุก) มาหลอมสูบในไฟไล่ขี้โลหะออกไปหลาย ๆ หน จนหมดตะกั่วและชินที่อยู่ในเนื้อทองสำริด ผสมกับเนื้อเงินแท้ ๆ ในสัดส่วนเงินหนัก ๑๐ สลึง ทองสำริดหนัก ๗ บาท ๒ สลึง (รวมนํ้าหนักเป็น ๑๐ บาท) แล้วนำไปหลอมจนละลายเทลงในแม่พิมพ์จะได้เงินฮ้อยหนึ่งแท่ง
ครอบขังไทย
ผู้ทรงยศล้วนผู้ลากผู้มากอย่าง ผู้มากเงินใช้เงินง้างทุกอย่างได้ สวมเครื่องแบบกินภาษีพุงพีไป ล้วนหัวใจไร้ธรรมาภิบาล
คำเต็มของ ตม.
พันตำรวจโทคำแพง เป็นนายด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นครพนม ท่านมีลูกสาวสวย สิบตำรวจโทคำตา ประจำอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ทำงานดีมาก จึงมีโอกาสได้เป็นลูกเขยของพ่อเฒ่าพันโทคำแพงแบบไม่ยากนัก
[๗] ปาจิต อรพิม ในงานศิลปะ (๒) วัดบ้านยางทวงวราราม อายุ ๒๒๐ ปี
ภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระปาจิต และนางอรพิม ที่ปรากฏรอบสิมวัดบ้านยางนั้น อยู่ล้อมรอบบริเวณสิมหรืออุโบสถ แต่อยู่ในลำดับล่างสุด โดยมีเรื่องพระมาลัย และพระเวสสันดรอยู่ข้างบนตามลำดับ ซึ่งเป็นการยากที่จะเข้าใจเรื่องราวที่แต้มไว้หากผู้มาเยือนขาดความเข้าใจในขนบของจิตรกรรมฝาผนังสิมอีสาน โดยเรื่องราวที่ปรากฏล้อมรอบสิมวัดบ้านยางนี้





