รูปการจิตสำนึกของคนกำหนดสร้างจากองคาพยพของสังคมแวดล้อม
รูปการจิตสำนึกของคนกำหนดสร้างจากองคาพยพของสังคมแวดล้อม และด้วยรูปการจิตสำนึกนั่นเองที่ติดฝังคนคนนั้นให้ไปสร้างทำ กำหนดตัวตน ครอบครัวและชุมชนขึ้น
สังคมหนึ่งหนึ่งก่อรูปขึ้นโดยมีชุดความคิดอุดมการณ์หลัก นำพาจนพัฒนาเป็นบ้านเป็นเมือง และเป็นราชอาณาจักร
แต่เมื่อระดับวัฒนธรรม ความเจริญก้าวหน้าของมวลมนุษย์ พัฒนาไปถึงขีดขั้นมนุษย์มีความเคารพในศักดิ์ศรีมนุษย์ มนุษย์มีความรักหวงแหนในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มนุษย์นอบน้อมศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และโดยทั่วไปล้วนใฝ่ฝันหาสิทธิ์เสรีภาพ มีความเสมอภาคและภราดรภาพ
ในขณะที่อีกสังคมหนึ่ง เต็มไปด้วยความล้าหลัง อภิสิทธิ์ชน โจรในเครื่องแบบ การทุจริตคดโกง คนรวยรวยล้นฟ้าปวงประชาลำบากยากเข็ญ และถูกมอมเมาให้เป็นทาสยาเสพติด
สภาพสังคมเช่นนี้ย่อมสร้างคำถามขึ้นในใจผู้คน จนนำไปสู่การแสวงหาคำตอบ และคิดค้นหาทางออกทางรอดให้แก่ประเทศชาติ
ความรู้สึกนึกคิดของลูกหลานไทยที่เข้มข้นมาตั้งแต่ยุคก่อน พ.ศ. ๒๕๐๐ จนถึงปัญญาชนพลเมืองรุ่นใหม่ในวันนี้ ได้สั่งสมองค์ความรู้และประสบการณ์มามากมาย ทั้งด้านจำนวนปริมาณและระดับคุณภาพ
เมื่อใดที่การปะทะต่อสู้กันทางการเมืองแหลมคมสูงสุด เมื่อนั้นชุดอุดมการณ์จากก้นบึ้งของจิตใจก็แสดงตัวออกมายืนยันความคิดการกระทำของฝ่ายตน
แม้ที่ผ่านมาฝ่ายผู้ครองอำนาจกำชัยชนะมาตลอด แต่ฝ่ายความคิดใหม่ก็เกาะเกี่ยวสร้างกลุ่มก้อนขบวนขึ้นเคลื่อนไหวไม่ขาดสาย ไม่มีใครทำลายเสบียงความคิดฝันของมนุษย์ได้ ไม่มีผู้ใดดับมอดฟืนไฟแห่งการเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อบุคคลเข้มแข็ง เสียสละ เฝ้าฝึกฝน หล่อหลอมตน รวมกลุ่ม สร้างวินัยองค์กร ถนอมรักกัน ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติและสรุปบทเรียน ผิดแล้วแก้ไข ล้มแล้วลุก แล้ววันหนึ่งความเปลี่ยนแปลงย่อมปรากฏ