ปิดเล่ม ทางอีศาน ๑๑๗
จำได้ไหมพี่น้อง เมื่อแรกยึดอำนาจเข้ามาบริหารกิจการบ้านเมือง ปี ๒๕๕๗ ขณะนั้นราคายางตกต่ำ นายกฯบอกว่าถ้าอยากได้ราคาแพงให้ไปขายที่ดาวอังคาร ล่าสุดเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ได้แนะประชาชนแก้ภาวะหาอยู่หากินลำบากโดยให้เลี้ยงไก่กินไข่บ้านละสองตัว
ตลอด ๗ ปี นายกฯยังมีข้อคิดคำแสลงหัวใจนับไม่ถ้วน เช่น มะนาวแพงก็ปลูกกินกันเอง ขายข้าวไม่ได้ราคาก็ให้ปลูกหมามุ่ยขาย น้ำท่วมทำนาไม่ได้ก็ไปเลี้ยงปลา ผักชีแพงก็ให้ทหารปลูก รถขนส่งหยุดเรียกร้องให้ควบคุมราคาน้ำมันก็จะใช้รถทหารวิ่งแทน ราคาปลาแพงก็อย่าไปกินให้คนรวยเขากิน ราคาทางด่วนแพงก็อย่าไปขึ้นเพราะเอกชนสัมปทานสร้างให้คนรวยใช้
ขณะอีกหลายซอกมุมของประเทศ รัฐบาลชุดนี้เที่ยวไล่ยึดที่ดินของชาวบ้านที่บรรพชนเขาเข้าครอบครองก่อนการประกาศเขตอุทยาน/ป่าสงวน หลายพื้นที่บอกเวนคืนที่ดินให้กลุ่มทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรม ทำเหมือง สร้างโรงไฟฟ้า ทำเขื่อน ฯลฯ
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะได้ครองอำนาจต่อไปอีกหรือไม่ ปัญหาทั้งในประเทศและระหว่างประเทศรุมเร้า ที่สำคัญคือปัญหาในกลุ่มก๊วนของคนกันเองที่กะพริบตาเป็นถูกแทงทั้งข้างหน้าข้างหลัง พวกเขายังเร่งอนุมัติอภิมหาโครงการต่าง ๆ ที่ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาลมากมาย
ใกล้ตัวคนอีสานบ้านเฮา เช่น โครงการรถไฟสายบ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม มูลค่ากว่าหกหมื่นล้านบาท งบพัฒนาหนองหาร จังหวัดสกลนคร มูลค่ากว่าเจ็ดหมื่นล้านบาท
โครงการไกล ๆ บ้านเฮา เช่น พัฒนาคลองแสนแสบ กทม. มูลค่าแปดหมื่นกว่าล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวิทวงศ์) มูลค่าแสนล้านบาท โครงการรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ มูลค่ากว่าแปดหมื่นกว่าล้านบาท
นี่คือเศษเสี้ยวเรื่องราวสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และที่จะดำเนินไป โดยเฉพาะโรคห่าตำปอด “โควิด-19” ได้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่ขณะนี้ลามกระจายไปกว่า ๑๐๐ ประเทศ ซึ่งยังไม่มีบุคคลคณะบุคคลใดสามารถยืนยันวันเดือนปีที่จะสยบมันได้
ที่เกริ่นมาทั้งหมดนั่นก็เพื่อจะร่วมสรุปกล่าวคำอำลาปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ สมสุขในปัจจุบันขณะ สุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจไปพร้อม ๆ กับผู้อ่านทุกท่าน…