ปิดเล่ม ทางอีศาน 119
ขณะนี้มนุษย์โลกกำลังเผชิญ “สงครามโรค” และ “สงครามโลก”
โรคห่าตำปอดยังคงแปลงร่างกลายพันธุ์ และออกอาละวาดไปทั่วทีป หวังให้วงงานสาธารณสุขกดหัวมันให้สยบยอมเป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็วพลัน
โน้นทางยุโรปตะวันออกกำลังร้อนแรงด้วยไฟปืน เสียงระเบิด และอานุภาพขีปนาวุธ มนุษย์ผู้นิยามตนเองเป็น “สัตว์ประเสริฐ” แต่ถึงที่สุดแล้วก็ไร้วุฒิภาวะ ไม่อาจเทียบได้แม้สัญชาตญาณสรรพสัตว์ หากสงครามเกิดขึ้นเต็มรูปแบบ ไม่ว่าเกิด ณ มุมใดของโลก ย่อมนำมาซึ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันเอง ย่อมนำมาซึ่งภาวะข้าวยากหมากแพง และเขย่าขวัญขย่มจิตวิญญาณความเป็นคนของทุกชีวิตที่ยังมีลมหายใจ ชัยชนะของสันติภาพเท่านั้นที่จะสำแดงอารยธรรมมนุษยชาติ
“เสรี พพ” คอลัมนิสต์ที่แฟน ๆ “ทางอีศาน” ชื่นชอบ ช่วงนี้ท่านมีงานเร่งด่วนสำคัญหลายเรื่องจึงไม่ได้ปั่นต้นฉบับลง “อะคาเดมีชีวิต” แต่ช่วง “ปิดเล่ม” อยู่นี้ ท่านส่งข้อเขียนสั้น ๆ หัวข้อ “อัจฉริยะคือสูงสุดแต่สามัญ” มาให้ กอง บ.ก. เห็นคุณค่าสมควรฝากต่อถึงทุกท่าน ความทั้งสิ้นมีว่า
“ไอน์สไตน์เป็นนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียง คนรู้จักทั่วโลก คงไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นคนคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพอันลือลั่น (สมการ E = MC2 ที่ใคร ๆ ก็รู้จักแต่ไม่เข้าใจ) แต่เพราะเขาชอบพูดเรื่องธรรมดา ที่คนธรรมดาไม่พูดหรือไม่กล้าพูด มองเรื่องธรรมดาที่คนธรรมดามองไม่เห็น เราจึงได้อ่านคำคมจากเขามากมาย ไม่ใช่เรื่องฟิสิกส์แต่เรื่องชีวิต
‘ชีวิตเหมือนขี่จักรยาน เพื่อจะทรงตัว (สมดุล) คุณต้องเคลื่อนไหว’
‘มีน้อยคนที่มองเห็นด้วยตาตน และรู้สึกด้วยหัวใจตน’
‘ปัญญาญาณไม่ใช่ผลผลิตของโรงเรียน แต่มาจากการเรียนรู้ตลอดชีวิต’
‘การศึกษาไม่ใช่การเรียนรู้ข้อเท็จจริง แต่เป็นการฝึกสมองให้คิดเป็น’
‘ถ้าคุณวัดความสามารถปลาจากการปีนต้นไม้ มันคงรู้สึกว่าโง่ไปตลอดชีวิต’
‘ตรรกะจะนำคุณจาก ก ไปยัง ข จินตนาการจะนำคุณไปทุกหนทุกแห่ง’
‘อยู่ห่างจากคนที่คิดลบ พวกเขาจะมีปัญหากับทุกทางออก’
‘สิ่งเดียวที่อันตรายกว่าความโง่ คือ ความเย่อหยิ่ง’
(The only thing more dangerous than ignorance is arrogance)”