ปิดเล่ม ทางอีศาน 128
อันหนึ่ง คองเมืองสร้าง ให้หลิงเห็นพวกไฟ แท้เนอ
ถ้าไฟบ่พร้อม สีหน้าบ่ฮุ่งเฮือง
ไม้ลำเดียว ล้อมฮั้วบ่ไขว่
ไฟบ่พร้อม แปงบ้านบ่เป็น แท้ดาย
(คัชชนาม ๒๕๖๒. ๕๐๘-๕๐๙)
สมมุติกาลเวลาปี ๒๕๖๕ กำลังสิผ่านไป ได้เห็นปรากฏการณ์ฟ้าฝนน้ำมาก ที่ลุ่มชุ่มฉ่ำและเสียหาย คนนาดอนข้าวงาม สายน้ำปีนี้ยังชี้บอกว่า ระบบเขื่อนสร้างปัญหาบ่จบให้กับระบบนิเวศ – ธรรมชาติ – มนุษย์
ปีนี้แถนยังหยอกล้อ ส่งฝนมาฮ่ำยามเกี่ยว – ตากข้าว ได้ตรงตามเวลา พอให้ปากคนที่กำลังเหนื่อยกายใจได้ป้อยด่า ราคาข้าวปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่กะยังต้อยต่ำ บวกลบคูณหารค่าใช้จ่ายโดยบ่นับเอาค่าแรงงานตัวก็ยังแทบบ่เหลืออะไร อุ่นใจดีเพียงว่ามีข้าวอยู่ในยุ้งฉาง สำคัญกว่าภาระอื่นใด การทำนาคือวิถีวัฒนธรรมแห่งชีวิต เกือบตลอดทั้งปีคนลาวอีสานประเทศไทยพันผูกอยู่กับไฮ่กับนา
หมดงานนาแล้ว พี่น้องเฮาส่วนหนึ่งกะพลิกดินปลูกมันสำปะหลัง พู่นอีก ๗ เดือนถึงเป็นดอกเป็นผล ราคามันสำปะหลังปีนี้ก็บ่ดี ปีหน้าคงเหมือนเดิม แต่ยังดีมีเงินบาทสลึงเพิ่มรายรับขึ้นอีกบ้าง
หมอลำเรื่อง “เอเปค” ผ่านไปแล้ว เรื่องใหญ่ของประเทศของรัฐบาลไทย ก็เหมือนกับเรื่องโอทอป วิถีนวัตกรรม ฯลฯ ระดับหมู่บ้าน หลวงเข้ามาคิดมาจัดการหมดทั้งรูปแบบเนื้อหาแทนชาวบ้าน แถมรับเงินทอนไปด้วย ผูกเรื่องราวขึ้นม่วนงาม เพื่อรักษ์ธรรมชาติ เศรษฐกิจสีเขียว แต่ความจริง นับมื้อทุนผูกขาด และข้าราชการชั้นสูงส่วนหนึ่งยังสมยอม พากันโกยกอบเอาแผ่นดิน แผ่นน้ำ ภูเขา แร่ธาตุ ไปสร้างประโยชน์โภชน์ผลตน
ทิศทางรัฐนาวาไทยยังไม่มี การหาอยู่หากินฝืดเคือง การเมืองยังเป็นเรื่งของคนโต บ้านใหญ่ สุดท้ายการเผชิญหน้ากับทุกข์สุขร้อนหนาวกะอยู่ที่ชุมชน หมู่บ้าน อยู่ที่สองมือตีนของพี่น้องเฮา อย่าลืมเด้อ…
ไม้ลำเดียว ล้อมฮั้วบ่ไขว่
ไฟบ่พร้อม แปงบ้านบ่เป็น