พี่น้องหัวใจศิลป์ถิ่นอีสาน
เปลี่ยน พ.ศ. ใหม่ ต้อนรับสิ่งใหม่ ๆ แต่สิ่งดี ๆ ยังไม่เคยเปลี่ยนคือคนหัวใจศิลป์ “ศิลปะนำชีวิต” ขออนุญาตนำเรื่องราวของพี่ชายคนโตและน้องชายคนเล็กของกระผม ที่ทั้งคู่เสียสละเพื่อส่วนรวมโดยใช้ศิลปะเป็นสิ่งเชื่อมโยง เมื่อมีโอกาสก็จะแบ่งปันโอกาสนั้นเสมอ
ขอเริ่มจากพี่ชายคนโตของกระผม นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือ “ครูแดง บ้านศิลป์ไทย” ผู้ที่มีส่วนผลักดันให้กระผม (“ครูเบิ้ม เติมศิลป์”) ได้มีโอกาสเรียนศิลปะจนสำเร็จปริญญา พี่ชายเป็นคนชอบศิลปะ แต่ชีวิตหักเหด้านการงานไปทำหน้าที่เป็นงานประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ว่างเว้นจากงานประจำ ครูแดงก็จัดกิจกรรมสอนศิลปะในโครงการเรียนฟรีมีอุปกรณ์ และอีกหลายโครงการให้กับเด็กและเยาวชน เป็นโครงการที่ริเริ่มก่อนครูเบิ้มหลายปี และวันนี้ก็เช่นกัน เปิดศักราชแห่งปี – วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ครูแดงกล่าวว่า
“สืบเนื่องจากการที่ผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจังหวัดหนองคาย ได้รับโล่และเงินรางวัล คนดีแทนคุณแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา เพื่อต่อยอดและเป็นการให้โอกาสทางการศึกษาวิชาศิลปะ ผมจึงจัดกิจกรรมนี้เพื่อให้เด็กและเยาวชนในเขตจังหวัดหนองคายมีความสุขและสนุกสนานในเทศกาลปีใหม่ เพื่อมอบจักรยานให้เด็กที่มีผลงานศิลปะผ่านเกณฑ์การประเมินตามจำนวนที่กำหนดครั้งนี้มี ๑๐ คัน ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน เพื่อปลูกฝังส่งเสริมกิจกรรมของเด็กและเยาวชนให้มีจิตสำนึกที่ดีมีน้ำใจ รู้จักแบ่งปัน ได้เข้าร่วมกิจกรรมใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และเรียนรู้เทคนิคการวาดภาพระบายสีแบบใหม่ มีเด็กระดับอนุบาลจนถึงมัธยมต้นเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้รวมทั้งหมด ๑๐๐ คนซึ่งมาจากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากการวาดภาพระบายสีแล้วยังมีบริการตัดผมฟรี ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากชมรมช่างตัดผมช่างเสริมสวย อ.ท่าบ่อ และยังมีอาหารฟรีเพื่อบริการเด็ก ๆ อีกด้วย กิจกรรมนี้ได้จัดขึ้นที่บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย”
กิจกรรมคนดีแทนคุณแผ่นดินที่ครูแดงจัดขึ้นยังได้รับเกียรติจาก ท่านอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ มาเป็นประธานเปิดงานและอยู่กับเด็ก ๆ ตลอดทั้งวัน ร่วมกับคณะครูและผู้ปกครองรวมถึงผู้ใหญ่ใจดีที่มาจัดเตรียมข้าวปลาอาหารทำให้บรรยากาศในบ้านทุ่งศิลป์คึกคักไปกับบรรดาจิตรกรน้อยที่ได้มาวาดลวดลาย วาดเส้นเล่นสีและสนุกสนานกับวิทยากรอารมณ์ดี ซึ่งนอกจากครูเบิ้มแล้วยังได้วิทยากรเสริมอีกท่านคือ คุณครูสุวิทย์ บัวลอย ครูศิลปะจากโรงเรียนบ้านนาน้ำพาย อ.ท่าบ่อ และท่านเป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ใจดีที่มอบจักรยาน ๑ คัน และเต็นท์อีก ๒ หลัง
หัวข้อที่ให้เด็กวาดวันนี้คือ “อาชีพในท้องถิ่น” เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เด็กสามารถถ่ายทอดได้ง่าย ประกอบกับวิทยากรได้ร่างภาพยกตัวอย่างการจัดวางภาพให้สวยงาม และระบายสีที่หลากหลายเทคนิค เมื่อทุกคนเข้าใจกติกาต่างก็เริ่มลงมือวาดอย่างขะมักเขม้น หากเปรียบเทียบการแข่งขันเหมือนกีฬาคงเรียกได้ว่า ช่วงโค้งสุดท้ายหรือใกล้จะหมดเวลานั้นการระบายสีคึกคักขึ้น ต่างเร่งมือแบบสุด ๆ ทำให้กองเชียร์ที่มีทั้งครู ผู้ปกครอง รวมถึงท่านนายอำเภอก็มาลุ้นผลงานของลูกหลานในครั้งนี้ด้วย พอถึงช่วงการพิจารณารางวัลวิทยากรได้พิจารณามาตรฐานของชิ้นงานตามความเหมาะสมและยุติธรรม โดยให้ผู้ใหญ่ใจดีได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกรางวัลจักรยาน หนึ่งในเด็กที่เข้ารอบรางวัลที่จะได้รับจักรยาน เมื่อปีที่แล้วเคยได้รับรางวัลนี้ เธอจึงสละสิทธิ์เพื่อให้เพื่อนคนอื่นได้รับโอกาสนี้ไป ท่านนายอำเภอชื่นชมและยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการแบ่งปันน้ำใจของเด็กหญิงคนนี้ พร้อมมอบทุนการศึกษาเป็นเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง ทุกคนปรบมือให้กำลังใจทำให้บรรยากาศยิ่งดูอบอุ่นเป็นกันเองมากขึ้น
กิจกรรมที่สองของน้องคนสุดท้อง ขอแนะนำนายประชา ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือ “ช่างแหล้” เป็นผู้ประสานงานหลักในฐานะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี งานนี้ก็ต้องเป็นคนหัวใจศิลป์อีกนั่นแหละครับถึงจะจัดกิจกรรมนี้ได้ เพราะต้องดำเนินการทั้งหมดเพื่อให้กิจกรรมเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนส่วนรวม ช่างแหล้จึงได้รับมอบหมายงานนี้จากประสบการณ์ที่เขาได้ทำสื่อโฆษณา ป้ายอิงค์เจ็ตหรือเรียกได้ว่าเป็นงานพาณิชย์ศิลป์ที่เป็นเจ้าแรกในอำเภอนี้ แม้ว่าไม่ได้จบการศึกษาด้านศิลปะโดยตรง แต่ได้คลุกคลีกับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะกว่า ๑๐ ปี โดยครูเบิ้มและครูแดงเป็นที่ปรึกษามาโดยตลอด ช่างแหล้ยึดเป็นอาชีพเพื่อและยังมีงานศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องในครั้งนี้ด้วยเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดีและพร้อมคืนกำไรให้กับสังคม
งานนี้เช่นกันครับ คอนเสิร์ตการกุศล “รวมน้ำใจให้น้องเพื่อคนดีของสังคม วันวานยังหวานอยู่” จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๖ เพื่อหารายได้สร้างโครงหลังคาบังแดดบังฝนให้เด็กนักเรียนหน้าโรงเรียนบ้านท่าโสม มีการขายบัตรโต๊ะจีนกว่าร้อยโต๊ะ งานนี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นอดีตศิษย์เก่าระดับประถมศึกษาของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้น ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาร่วมงานได้ในส่วนความบันเทิงด้านหน้าเวทีมีศิลปินนักแสดงมากมาย อาทิ ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต พิทักษ์ เสริมราษฎร์, นักร้องลูกทุ่งหมอลำ เดือนอ้าย ลีซียอง, คุณครูชินกร พิมพิลา และทีมงานจากโรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม, ศิลปินตลก “จ้อ นินจา” และ ก๊อบปี้โชว์ (copy show) พี่เป้า-สายัณห์ โดยครูเบิ้ม เติมศิลป์
การประมูลภาพวาดก็ถือว่าเป็นช่วงสำคัญของรายการ เพราะจากยอดการประมูลรวมทั้งสิ้น ๙๕,๐๐๐ บาทถ้วน ภาพวาดได้รับความอนุเคราะห์จากบุคคลที่อยู่ในแวดวงศิลปะ อาทิ ผ.ศ.วิรัตน์ ไม้เจริญ ประธานศิลปกรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย, ครูเบิ้ม เติมศิลป์ ประธานโครงการสัญจรสอนศิลป์ฟรีฯ, นายประชา ธรรมเรืองฤทธิ์ เจ้าของร้านน้ำโสมกรอบรูป และ นายยุทธนา เอกพงศ์ จิตรกรอิสระ ผลงานขนาด ๘๐ x ๑๐๐ ซม.เป็นผลงานค่อนข้างใหญ่ ๓ ชิ้น คือ ๑. ภาพมหาบัวนิมิตแห่งสวรรค์ ผู้ที่ได้เป็นเจ้าของคือผู้จัดการร้าน ป.ก่อสร้าง ๒. ภาพพระสังฆราช พ.ศ.๒๕๕๖ ผู้ที่เป็นเจ้าของคือ ผจก.ร้านโลกเกษตร ๓. ภาพดอกไม้แดงแห่งภูลานธรรม ผู้ที่เป็นเจ้าของคือ เจ้าของโรงน้ำแข็งโชคไพบูลย์ส่วนภาพ ผ.ศ.วิรัตน์ ไม้เจริญ คือภาพทะเล, ครูแดง บ้านศิลป์ไทย ภาพในหลวง, นายประชา ธรรมเรืองฤทธิ์ คือภาพธารทิพย์ธารทอง และนายยุทธนา เอกพงษ์ คือภาพทิวทัศน์ ผู้ที่เป็นเจ้าของคือ ผจก.อิงภูรีสอร์ท
ระหว่างเตรียมผลงานศิลปะเพื่อการประมูลครูเบิ้มได้อดตาหลับขับตานอนโดยมีภรรยาและลูกชายพร้อมทั้งคุณแม่คอยเป็นกำลังใจ ในขณะเดียวกันก็ได้เฝ้าดูแลครูแดงที่เจ็บป่วยอยู่ด้วย เราสร้างกำลังใจให้กันและกัน สิ่งตอบแทนใจที่เป็นกุศลคือความสุข ผู้ที่ประมูลภาพได้ครั้งนี้นับว่าเป็นผู้มีรสนิยมทางด้านศิลปะ ต้องขอชื่นชมและขอบคุณผู้ที่มีจิตใจอันเป็นกุศล
สุดท้ายต้องขอขอบคุณประธานเปิดงานคุณเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาจังหวัดอุดรธานี เขต ๑๐, นายสุนทร สุนสิน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าโสม, นายเท บัวบน ประธานกรรมการสถานศึกษา, ประชาชนชาว อ.น้ำโสม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ไม่ได้เอ่ยนามทุกท่าน.
ทางอีศาน ฉบับที่๑๐ ปีที่๑ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
คอลัมน์: ศิลปะนำชีวิต
Column: Art Will Lead The Way
ผู้เขียน: ครูเบิ้ม เติมศิลป์ เรื่องและภาพ
