Poet Patio
ลานข่วงคำกวี
“บุญผลา แสงดาวดั้ง”
มาญามฟ้า
เมฆา ญายคับฟ้า ปานนุ่นทาลาน
เป็นขุยหยุย ยวงยาว พ่องหนาเนืองกว้าง
ลางเป็น ลอนซอนซั้น เลียนถันแถวหลั่น
หลิงเห็น ดารดาษด้าม ดาแต้มแต่งอินทร์
งามทัง ไกลและใกล้ ในแผ่นผืนนภา
แท้แม่น ยามเยืองสูรย์ ส่องหนหาวฟ้า
สมขึ้นมา พานผ้าย ปลายโพยมยังบ่อน
ปุนเทพดา แต่งไว้ คอยต้อนฮับคน จริงแล้ว
แดนนี้นอ กกน้ำ โฮมกลั่นเป็นฝน
โลกา แสนซุ่มเย็น เพิ่งพาคุณนั้น
อเนกอนันต์ นองหล้า สายธาราหลาก
จากสรวงสูง เมฆฟ้า แสนล้านหมื่นปี มาแล้ว
คิดคัน คนฮักษ์ฟ้า แพงถิ่นโลกา
บ่สร้าง มลภัยเผย ระเหยของเสียขึ้น
บ่ทำลาย สายโส้ โอโซนนภากาศ
จึ่งจะ พาโลกไฮ้ หนฮ้อนแห่งภัย แท้นอ
ผิอัมพร แลภาคพื้น ผายโผดภูมิคน
มีใจ ดูดาลดล สิ่งดีดอมเอื้อ
จึ่งปวง ศาสตรศิลป์สร้าง สันติ์มวลเมืองลุ่ม
เท่าผอง พันหมื่นล้าน ปีล้ำโลกเฮือง จริงแล้ว
(กลอนอ่านปางคำ, ล้านช้าง)
ล้านช้าง ฝั่งขวา
๔ สิงหาคม ๒๕๖๑
๑. ญาม, ยาม : เยี่ยม, เยือน
๒. โพยม (พะ โยม), นภา, อัมพร : ท้องฟ้า
๓. เท่าผอง : จวบถึง, จนกระทั่ง
หมากจันทน์ปั้นใจ
เห็นหมากจันทร์หล่นข้วน ลงเดิ่นลานดิน
คราวที่ไปจังหัน บ่อนอาฮามกว้าง
เก็บมาดมดอมแล้ว ฮวยหอมเหยกลิ่น
ใจก็หวนคึดพ้อ คำเว้าย่ายาย
ตั้งแต่คราวก่อนพุ้น ในหว่างพรรษา
ใผก็หมายจันทน์สุก ตื่นมาคองต้น
บ่ได้เสยเสียถิ้ม เป็นของมีค่า
คอบบ่มีหมากไม้ หลายล้นเลือกกิน
ฮอดคนเฮายุคนี้ ตาเผิ่นแนมกลาย
ปล่อยให้ขูลงดิน เน่ากองเต็มพื้น
เพลินนำผลผลาไม้ หลายอันพันอย่าง
เพียงมีเงินป่อนให้ ขายซื้อเซ่งแซว
จันทน์สุกปุนดั่งด้าม โตต่อนความดี
แม่นบ่มีคนเห็น ค่าคุณเคียนค้ำ
ให้ค่อยทำโทมท้อน ให้ค่อยทำโทมท้อน
คือความหอมติดแหน้น ในเนื้อหน่วยจันทน์ นั้นแหล้ว
“ทอฝัน สานรัก”
ตาเผิ่น : มองผ่าน มองเมิน ทำมองไม่เห็น