โคตรเหง้าของเหล่าปราชญ์ผู้ต่อสู้พลิกโลกได้สรุปไว้นานมาแล้วว่า การเมืองคือ สงครามที่ไม่หลั่งเลือด สงครามคือ การเมืองที่หลั่งเลือด
บัดนี้ เสียงกลองศึกการเมืองที่ไม่หลั่งเลือดครั้งใหม่ได้ดังลั่นสนั่นประเทศไทยของเราแล้ว
คำว่า “การเมือง” กินความกว้างไกลทั่วทุกด้าน ตั้งแต่เรื่องนาฬิกาข้อมือของเพื่อนที่ตายดับไปหมดแล้วยันเรือดำน้ำที่ซื้อสองแถมหนึ่ง และ “การเมือง” ครอบคลุมการดำเนินชีวิตของคนตั้งแต่ลืมตาเกิดจนถึงวันตาย
“งานการเมือง” ได้แก่การบริหารจัดสรรผลประโยชน์ของคนในสังคม ตามแนวทางนโยบายของกลุ่มผู้ถือครองอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ โดยผ่านการรณรงค์เลือกตั้งหรือแต่งตั้งหรือตามเงื่อนไขปัจจัยของสังคมนั้น ๆ โดยใช้ศาสตร์ทุกศาสตร์เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์
แก่นแท้การเมืองเป็นเรื่องดีงาม ทุกคนได้สัมผัสรับรู้และเกี่ยวข้องไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ได้ทำงานการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่เป็นฝ่ายบริหารก็เป็นผู้ตรวจสอบผู้คัดค้าน ไม่เป็นฝ่ายกระทำก็ถูกกระทำอยู่ร่ำไป ในบริบทการต่อสู้ทางการเมือง
ท่ามกลางเสียงกลองศึกที่ดังสนั่นหวั่นไหว เผยให้เห็นการจัดขบวนทัพของแต่ละพรรค ทั้งพรรคเก่าคนเก่า พรรคเก่าคนใหม่ พรรคใหม่คนเก่า และพรรคใหม่คนใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กับดัก กลโกง เผยให้เห็นแผนชิงอำนาจกันเองของชนชั้นนำที่ดูดุเดือด เด็ดขาด และเหี้ยมเกรียมยิ่งกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ประชาชนต้องทบทวน เรียนรู้ทิศทางการแก้ไขปัญหา รวมกลุ่ม ร่วมสร้างและสนับสนุนพรรคที่เห็นว่ายืนอยู่ข้างผลประโยชน์คนส่วนใหญ่ ไม่ยอมเป็นหญ้าแพรกที่ต้องแหลกลาญเช่นสงครามการเมืองที่ผ่านมา