สรุปคำวินิจฉัยศาลปกครอง ร่วมปกป้องแม่น้ำโขง โดย อ้อมบุญ ทิพย์สุนา

สรุปคำวินิจฉัยศาลปกครอง ร่วมปกป้องแม่น้ำโขง

โดย อ้อมบุญ ทิพย์สุนา

# วันนี้ องค์คณะพิจารณาคดีมี 5 ท่าน ส่วนตุลาการผู้แถลงคดีมี 1 ท่าน รวมเป็น 6 ท่านค่ะ ในองค์คณะมีตุลาการเจ้าของสำนวนเป็นเหมือนฝ่ายเลขาขององค์คณะ ในวันนี้ตุลาการเจ้าของสำนวนเป็นผู้อ่านสรุปข้อเท็จจริงสั้นๆ ว่าสาระสำคัญการฟ้องคดีมี 2 ประด็น คือ

            1.ประเด็นเรื่องการไม่แจ้งข้อมูล ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างเหมาะสม และไม่มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างเพียงพอและจริงจังของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 5 ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น

            2. ประเด็นเรื่องการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพและสังคม ทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอาจได้รับผลกระทบข้ามพรมแดนและให้คู่กรณีแถลงโดยเอกสารและวาจาเพิ่มเติม ซึ่งทางเราก็แถลงทั้งโดยเอกสาร และวาจาค่ะ โดยมีบึ้ง และพี่อำนาจ แถลงโดยวาจา ส่วนคำแถลงเพิ่มเติมโดยเอกสาร มีรายละเอียดตามไฟล์แนบนี้ (สอบถามทนายแล้ว ว่าสามารถเปิดเผยได้)

โดยปกติแล้ว ตุลาการเจ้าของสำนวนจะไม่มีความเห็นในขั้นตอนนี้ ตุลาการผู้แถลงคดีจะทำหน้าที่คล้ายฝ่ายค้านหรือฝ่ายถ่วงดุลกับองค์คณะซึ่งอาจมีความเห็นตรงกันข้าม/หรือเห็นสอดคล้องกับองค์คณะได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วคำพิพากษาจะมาจากมติขององค์คณะ ว่าจะตัดสินอย่างไร

            สรุปคือ ตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นยืนว่า ยกฟ้อง ตามศาลชั้นต้น เพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่

ขั้นตอนต่อไป องค์คณะจะไปประชุมธงคำพิพากษา และจัดทำคำพิพากษา และถ้าหากเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ซับซ้อนก็อาจนำเข้าที่ประชุมใหญ่พิจารณา

จากการสอบถามแวดวงคนทำงานศาลปกครองว่า ที่ผ่านมาเคยมีไหมที่ศาลตัดสินตรงกันข้ามกับตุลาการผู้แถลงคดีเขาตอบว่าเคยมี ดังนั้น สิ่งที่ตุลาการแถลง จึงไม่ผูกพันกับคดี

# สิ่งที่อัดอั้นตันใจคือ ชาวบ้านตาสีตาสาที่ไปกัน ทางศาลไม่อนุญาตให้เข้าห้อง ทั้งที่ทนายได้ขออนุญาตแล้ว และทางตุลาการผู้แถลงคดี แถลงสั้นๆ ว่ายืนตามศาลชั้นต้น จนถ้าไม่ตั้งใจฟังก็ฟังไม่ทัน ว่าจบแล้ว และวันนี้ ตุลาการเจ้าของสำนวนดุมาก บึ้งกับพี่อำนาจเตรียมมาคนละ 5-7 นาที ไม่สามารถพูดได้ บรรยากาศไม่ผ่อนคลาย จุกอก ถูกถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรแกมตวาด ได้พูดกันไม่ถึงนาทีค่ะ พยายามจะบอกว่าเรามีอาชีพอะไร ได้รับผลกระทบอะไร สิ่งที่ท่านจะตัดสิน ตอนนี้พวกเราได้รับผลกระทบแล้ว อันเป็นผลมาจากที่เราได้รับผลกระทบข้ามพรมแดน ซึ่งขาดการประเมินผลกระทบ บางทีพวกเราก็ไม่รู้ขั้นตอนว่าทำอะไรก่อนหลัง เช่น ผู้ฟ้องคดีที่…คือคนไหน เราก็ยกมือ เราไม่เคยทราบว่า ต้องลุกขึ้นยืน ลุกช้าก็ตวาดเราว่า หูตึงหรืองัย ได้ยินไหม วันนี้ออกอาการดุทั้งชาวบ้าน และทนาย บรรยากาศไม่เอื้อต่อการให้เราได้บอกเล่า อย่างน้อยมีเมตตาฟังเราบ้าง ไม่ว่าสิ่งที่ชาวบ้านจะแถลงเพิ่มเป็นเรื่องใหม่ หรือเรื่องเก่า

เรารู้สึกอัดอั้นตันใจ และหมดที่พึ่ง กับท่าทีดังกล่าวค่ะ และการมาศาลรอบนี้ แตกต่างจากครั้งที่แล้ว ที่ตุลาการท่านนั้นเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้พูด ได้แถลงระบายความทุกข์

            ดังนั้น ดูข่าวก็ไม่ต้องตกใจค่ะ คนแบบพวกเราที่เป็นชาวบ้าน ไม่มีอะไรต้องเสียภาพพจน์ เพราะเราคือชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ เราไม่มียศศักดิ์ใด ๆ การศึกษาก็ไม่ถึง อาจไม่เข้าใจอะไร ว่ามีขั้นตอนอย่างไร แต่เรารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในพื้นที่ มันเป็นข้อเท็จจริงค่ะ หน่วยงานทราบดี ชาวบ้านทราบดี

ไม่ว่าคำพิพากษาจะเป็นอย่างไร พวกเราสู้ต่อ ไม่มีทางถอย อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ ที่เราท่องมาตั้งแต่เรียนหนังสือ เรายังใช้ไม่ครบค่ะ

            # วันที่ 15 มิถุนายน 2565 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นัดหมายหน่วยงาน และเครือข่ายชาวบ้านฯ เพื่อรับฟังกรณีเขื่อนสานะคาม ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย  โทรประสานมาเมื่อสักครู่ในอนาคต พวกเราจะงง ๆ กันทั้งหมดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นผลมาจากเขื่อนตัวไหน การคุ้มครอง ปกป้อง ประชาชนของรัฐไทยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ติดตามกันต่อไปค่ะ

*คดีนี้ยื่นฟ้องมายาวนาน จนโจทก์หลายคนล่วงลับด้วยอายุขัย เด็กน้อยที่ร่วมในวันนั้นเป็นเติบโตเป็นหนุ่มแล้ว.

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com