เสียงพิณเสียงแคน
หลายหมู่บ้านไม่ได้ยินเสียงพิณเสียงแคนนานมาแล้ว เหมือนกับคนหนุ่มสาวคนวัยทำงานจากบ้านไปอยู่เมืองใหญ่แดนไกลกันหมด
เสียงพิณเสียงแคนเป็นดังชีวิตจิตวิญญาณของอารยชนลุ่มแม่น้ำโขง แม้พลัดพรากไปอยู่แห่งหนตำบลไหน ครั้นได้ฟังได้ยินจะถวิลหารากเหง้าเหล่าตน เหมือนคนที่ฝังสายรกสายแฮ่ไว้หมู่บ้าน แม้ดิ้นรนทำมาหากินอยู่ถิ่นไหนบั้นปลายชีวิตหากเลือกได้ก็ปรารถนากลับมาตายที่บ้านเกิด
อารยธรรมของคนลุ่มน้ำโขงนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ยิ่งใหญ่ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตนรักพวกพ้อง รักสันติ เหมือนพิณแคนเครื่องดนตรีที่มีรูปลักษณ์สามัญธรรมดา แต่กาลเวลาได้พิสูจน์ถึงความเป็นอมตะจนกระแสดนตรีสายใดไม่อาจกดข่มได้ ตรงกันข้าม นับวันยิ่งจะสำแดงพลานุภาพให้ประจักษ์ไปทั่วสากลโลก
เสียงพิณเสียงแคนต้องกลับไปรับใช้พี่น้องชุมชน เช่นเดียวกับคนหนุ่มคนสาวคนวัยทำงานต้องกลับไปพัฒนาบ้านเกิด ศิลปินต้องพัฒนาฝีมือตนสร้างสรรค์เนื้อหารับใช้ชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบัน คนผู้มีสำนึกรักบ้านเกิดต้องกลับคืนถิ่น เรียนรู้จากผู้เฒ่าผู้แก่ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ค้นคว้าทุ่มเทสร้างนวัตกรรมทางการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรขึ้น
“ดนตรี” ศิลปะ วรรณกรรม อาหารการกินเสื้อผ้าหน้าแพร บ้านช่องห้องหอ ภาษา ฮีต คอง ท่วงท่ากิริยามารยาท การเมือง ความเชื่อ ศรัทธาของผู้คนในสังคมหนึ่ง ๆ ย่อมสะท้อนจากองคาพยพทั้งหมดของสังคมนั้น ๆ
เสียงพิณโตดติตง เสียงแคนแตรแล่นแตร้ จะต้องก้องดังในหมู่บ้านและกังวานไกลไปทั้งท้องทุ่งผู้คนทุกรุ่นวัยต้องร่วมกันสรรสร้างบ้านเกิดเมืองนอนและประเทศชาติให้ไพบูลย์พูนสุข