เด็กเยาวชนมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมีคุณภาพได้ ถ้าหากมีการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเหมาะสม อะคาเดมีชีวิต (Life Academy) มีแผนงานที่จะทำโครงการพัฒนาเยาวชนคนมีภูมิ ให้มี ๓ ภูมิ คือ ภูมิธรรม ภูมิปัญญา และภูมิฐาน
ภูมิธรรมและภูมิปัญญานั้นเป็นที่เข้าใจและมีการดำเนินการอยู่แล้ว ขณะที่ภูมิฐานนั้นเป็นนวัตกรรมที่อะคาเดมีชีวิตต้องการสร้างขึ้นมาเพื่อให้เยาวชนมีทักษะพื้นฐานในการดำรงชีวิตที่มั่นคง อยู่รอด ปลอดภัย และมีความสุข ฐานทั้ง ๑๒ มีดังนี้
ศิลปะป้องกันตัว, กีฬา, ว่ายน้ำ, ดนตรี, ศิลปะ, การแสดง, สุขภาพ, อาหาร, จราจร, เกษตร (พืชผักสัตว์ ปุ๋ย น้ำหมัก), จิตอาสา, โครงงาน (แผนชีวิต แผนอาชีพการงาน แผนการเงิน แผนสุขภาพ)
โครงการเยาวชนคนมีภูมิมีวัตถุประสงค์
๑) พัฒนาเยาวชนอายุระหว่าง ๘-๑๘ ปี ให้มีภูมิคุ้มกันชีวิตอย่างรอบด้าน เพื่ออยู่รอดปลอดภัยและมีชีวิตที่มั่นคงในโลกยุคใหม่นี้
๒) สร้างต้นแบบการพัฒนาเยาวชนโดยร่วมมือกับโรงเรียนและจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะนำไปขยายผลทั่วประเทศ
๓) สร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้เยาวชนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างมีความสุข และได้รับผลตอบแทนทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทุนเพื่อการศึกษา
ความหวังผล คือ เยาวชนเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีภูมิคุ้มกันตนเองจากอันตราย สิ่งยั่วยุ สิ่งเสพติด การพนัน แอลกอฮอล์ ติดเกมส์ และอบายมุขต่าง ๆ ได้ต้นแบบการพัฒนาคนให้ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และสังคม ได้สานต่อ ขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
สังคมจะอยู่เย็นเป็นสุขเพราะเยาวชนมีคุณภาพ มีจิตอาสา ดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย มีแบบมีแผน และมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองสูง เป็นที่พึ่งพาของครอบครัว ชุมชนและสังคมได้
โครงการนี้มีรายละเอียดอีกมาก ในที่นี้เป็นการนำเสนอแนวคิดเบื้องต้นเพื่อแนะนำ เพื่อจะได้ช่วยกันคิดและร่วมมือกันพัฒนาลูกหลานของเราเพื่อสังคมที่อยู่ดีมีสุข ไม่ใช่โครงการทางธุรกิจ แต่เป็นการประกอบการเพื่อสังคม (social enterprise) ไม่มีค่าเล่าเรียน เปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม
การเรียนรู้ที่ดีที่สุดเริ่มจากตัวเอง ให้เด็กเยาวชนไม่เพียงแต่อยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและปัญหาสารพัดนี้ แต่ให้อยู่อย่างมั่นคงและมีความสุข ไม่ใช่อยู่ในความสับสน จนไม่รู้จะจัดการชีวิตอย่างไร มีแต่ความกลัว ความเครียด ความทุกข์ ให้พวกเขาสามารถเผชิญชีวิตทั้งยามลำบากหรือยามวิกฤติ ความเสี่ยงและภยันตราย ด้วยใจที่กล้าหาญและหนักแน่น
ทุกปีเด็กหลายพันคนจมน้ำตายเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ถูกลวนลามข่มขืนเพราะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ เด็กจำนวนมากไม่มีวิธีแสดงออกที่ดีถึงพลังภายในที่รุนแรงของตนเอง จึงทะลุออกไปในทางร้ายและเป็นภัยต่อผู้อื่น การเรียนรู้ศิลปะและดนตรีจะทำให้อ่อนลง ลดความก้าวร้าวรุนแรง
เด็กเยาวชนจำนวนมากอ่อนแอ ขาดภูมิคุ้มกัน ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้จากสิ่งยั่วยวนที่รุนแรงของสิ่งแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยี และค่านิยมผิด ๆ ที่สังคมสั่งสมและหยิบยื่นให้
ไม่ใช่ต้องรู้ทุกเรื่องทุกอย่าง แต่อะคาเดมีชีวิตเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองให้มากที่สุดตามศักยภาพ พร้อมแรงจูงใจให้ได้รับการยกย่องด้วย “ปริญญาคุณากร” (คุณากร แปลว่า บ่อเกิดความดี ที่รวมคุณความดี) และรางวัลเป็นทุนการศึกษา เมื่อผ่านการทดสอบว่าได้เรียนรู้และทำได้จริง
การเรียนรู้วันนี้ทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน เพราะมีสื่อที่เปิดประตูสู่โลกแห่งข้อมูลข่าวสาร ถ้ารู้จักใช้ รู้จักเรียนก็จะได้ความรู้ เกิดปัญญา ในเวลาเดียวกันโลกวันนี้ก็เต็มไปด้วยสิ่งสำเร็จรูปที่ทำให้คนไม่ออกแรงในการลงมือเรียนรู้ และทำเอง
การทำอาหารเป็นวันนี้เป็นเรื่องง่าย อยากทำอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง หรือชาติไหนก็เปิดยูทูป สอนให้ทุกกระบวนการทุกรูปแบบ แต่ในเวลาเดียวกันรอบตัวเราก็มีอาหารสำเร็จรูปเต็มไปหมดที่กินได้ทุกเวลา ตั้งแต่ข้างถนนไปถึงร้านสะดวกซื้อ ที่บอกว่า “หิวก็แวะมา” เปิด ๒๔ ชั่วโมง
การเรียนรู้ทำอาหารไม่ใช่เพียงเพื่อทำเป็น แต่เพื่อจะได้กินเป็นและอยู่เป็น มีสุขภาพดี ได้เรียนรู้ถึงผลดีผลเสียของอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป อาหารกล่อง อาหารถุง เรียนรู้สารพิษตกค้างในพืชผัก และอาหารสด ถ้ามีพื้นที่ก็เรียนรู้ลงมือปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เพาะเห็ดเอง
การส่งเสริมให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกันจึงเน้นที่การปฏิบัติ การลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายและจิตใจ มีวินัยในตัวเอง เคารพและให้เกียรติคนอื่น เคารพกฎหมาย กฎจราจร มีน้ำใจ มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม
เด็กเยาวชนมีความสุขที่ได้ลงมือทำ วางแผนและดำเนินการส่วนตัวหรือเป็นกลุ่ม การทำโครงงานที่เป็นการเรียรู้เพื่อจัดการชีวิต วางเป้าหมาย วางแผนการดำเนินชีวิต แผนอาชีพการงานเล็ก ๆ ที่สามารถทำได้เพื่อให้มีรายได้ช่วยเหลือพ่อแม่ ช่วยค่าใช้จ่ายของตนเอง
สังคมมีโครงสร้างที่บิดเบี้ยว สร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างค่านิยมที่ผิดและไม่สมดุลให้กับผู้คน ทำให้พ่อแม่ดิ้นรนส่งลูกไปโรงเรียนดัง ๆ เข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง เพื่อให้ลูกประสบความสำเร็จ มีงานทำดี ๆ มีเพื่อนดี ๆ มีเครือข่ายทางสังคม แต่ก็ลืมไปว่า ปัจจัยและเงื่อนไขให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีความสุข ช่วยเหลือตนเองได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จทางการศึกษาอย่างเดียว
นอกนั้น มีการวิจัยที่ยืนยันว่า ความสำเร็จในหน้าที่การงานและการมีชีวิตที่มีความสุขนั้น สำคัญที่สุดคือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ไม่ใช่ “ไอคิว” แต่มี “อีคิว” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ “คนนิสัยดี” อยู่ร่วมกับคนอื่นได้
การเรียนเพื่อมีความสามารถ “รอบด้าน” คงไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรถ้าหากรู้ว่าเป้าหมายคืออะไร มีคุณค่าอะไรต่อชีวิต เป็นการพัฒนา “ครบวงจรชีวิต” เหมือนคนที่มีรูปร่างสมส่วนสง่างาม ไม่ใช่หัวโต ก้นลีบ หรืออ้วนลงพุง
รอบรู้ทุกอย่างเหมือนเซ็นเซอร์รถยนต์วันนี้ที่มองได้รอบทิศ ๓๖๐ องศา เตือนภัยได้ ป้องกันอุบัติเหตุได้ โดยการเบรคหรือหลบไม่ให้เกิดการชน
การเรียนรู้จากฐานทั้ง ๑๒ บูรณาการไปกับ “ภูมิธรรม” และ “ภูมิปัญญา” จะพัฒนาเด็กเยาวชนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
การมีความรู้ความสามารถรอบด้าน แม้ไม่เก่งกล้าสามารถอย่างมืออาชีพ แต่ก็มีคุณค่าสำหรับวันนี้ที่เป็นเด็กเยาวชนไปจนถึงเป็นผู้ใหญ่และเข้าสู่วัยชรา มีชีวิตที่ดี และมีความสุข