Category

บทกวี

ปรัศนี

มนุษย์มีเพศสภาพกว่าชายหญิง ความคิดยิ่งยากจาระไนไพศาล แท้จริงดีมีนิยามตามรูปการณ์ เชื่อมด้วยรักจึงสมานสานไมตรี

กลอนเครือเขากาด

“กลอนเครือเขากาด” นี้ เป็น “กลอนประวัติศาสตร์” แต่งโดย หมอลำทองลา สายแวว บ้านหัวเรือ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี รวมอยู่ในหนังสือ “ไขภาษิตโบราณอีสาน” ของ ดร.ปรีชา พิณทอง

ผญา: คองคอย

บทผญา คองคอย โดยพระไม้: คองว่าสิได้ มาเห็นหน้า หวนคืนบ้านเก่า คองว่าสิได้ เห็นหน้าเจ้า เมือบ้านถิ่นอีสาน อีสานบ้าน บ่อนแถนแปงอินทร์หล่อ ว่าสิ มีคู่ค้ำ มาตุ้มสร้างสา ฯ โอนอ พอว่าเถิงเดือนอ้าย เดือนเจียง ลมล่วง หนาวหน่วงน้าว ใจอ้ายอ่าวกระสัน พันธนังฮ้อน ฮนฮวยคึดฮอดอุ่น อวลเอย บุญห่านี้ บ่มีน้องอยู่เคียง ฯ

คำโตงโตย : “ฮ้อนกว่าไฟ ใสกว่าแก้ว แล้วก่อนทำ”

ฮ้อนกว่าไฟ ได้แก่ใจ ปกติของใจ นึกจะ ทำอะไรก็อยากจะทำเร็ว ๆ อยากจะให้เสร็จ เร็ว ๆ ที่ว่าไฟฮ้อนก็ไม่ฮ้อนเท่าใจ เพราะไฟ ธรรมที่ว่าร้อน ก็เผาได้แต่เฉพาะกาย ไม่เผาใจ ได้ ส่วนไฟคือใจร้อนนี้ มันเผาทั้งร่างกายและ จิตใจ เมื่อใจร้อนแล้วกายวาจาก็พลอยร้อนไป ด้วย

ข้ า คื อ ค น

๐ หนึ่งชาติพันธุ์วรรณาได้ปรากฏ ชีวิตเลี้ยวเคี้ยวคดเกินกฎสร้าง วันปู่ย่าตายายออกเดินทาง ไม่ตายดับจึงถากถางสร้างตำนาน...

กลอนบทละคร (๑๕-๑๖)

บทพากย์ นางลอย ยุคอยุธยา เทียบกับพระราชนิพนธ์ ร.2 ขนบการประพันธ์ของไทยโบราณ ผู้ประพันธ์จะถ่อมตน บางเรื่องไม่แถลงนามผู้ประพันธ์ หลายเรื่องที่ลงท้ายเชิญให้ผู้ที่มีความสามารถสูงกว่าช่วยแก้ไขปรับปรุงให้ด้วย

คำผญา พระไม้: หม่ำ

“เนื้อดีๆ ซอยถี่ๆ ฟักแหลกๆ คั้นแล้ว แดกใส่บั้ง เคียนข้อต่อกัน” ฯ เนื้อดี แข่นอั้นตั้น คั้นใส่หัวผักเทียม ซอยเทิงตับ ใส่นำพอด้าม เอาเทิงม้าม ลงนำจักสะหน่อย คั้นให้มุ่นอ้อยป้อย อุ้ยตุ้ยใส่กัน ของสำคัญว่านั้น แม่นข้าวคั่วลงผสม คั้นจนสมพอควร จนว่าสีหอมกุ้ม แล้วจั่งหยุมลงไส้ อัดดียัดแก่น พู้นเด้อ...อ่านต่อ

คนเดินป่า (จบชุด – มนุษย์ : ฝูงสัตว์ทดลองของพระเจ้า)

ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ฝูงมนุษยชาติก็ยังหลงใหลมะงุมมะงาหรา เดินไปในป่าโลภจริตโดยมีลัทธิเศรษฐกิจกำหนด ป่าเหือดดงแห้งแล้งคุณธรรม อันมีแต่ฝูงสัตว์เศรษฐกิจสัตว์อำมหิตขบกัดมาตลอด ชีวิตมืดบอดไร้แสงแห่งพุทธปัญญา อยู่ในป่าดงกิเลสตัณหาไร้หนทางสู่ความสว่างในชีวิต

ตามรอยพลพรรคเสรีไทย ที่บ้านนาผาง อ.ภูพาน จ.สกลนคร

ยายชีแก้ว ซีด้าม เล่าเรื่องขุนพลภูพาน ว่า... พ่อแม่ท่านไปพบรักกันที่บ้านนาหว้า-นาคอย ท่านเกิดมาได้ 4 ขวบ พ่อแม่ก็ย้ายกลับมาที่บ้านผางาม ครั้งกระโน้นอยู่กันในป่าในดอน 3-4 ครอบครัว ทำนา 2-3 ไร่ หากินกลอยกินมัน พลพรรคครูเตียงมีเป็นกองร้อยกองพัน มีอาวุธ กระจายกำลังกันอยู่ตามตีนภู มาอยู่กันไม่ถึงเดือน ย้ายไปย้ายมา ยายชีแก้วเคยหาบผักหาบเหล้าไปขายให้ ครูเตียงเคยขี่ม้าเข้ามาในหมู่บ้านมาคนเดียว ชอบเหล้าไห เหล้าขี้แกลบ

กาพย์ไขผญา: เงิน-ทอง

๏ ใจหนอใจมนุษย์ จะสูงสุดเมื่อมีธรรม พื้นเดิมอาจมืดดำ โดยสันดานอันดิบดาย ธรรมดาก็ดูดี ไม่เห็นมีที่อันตราย มีญาติมีมิตรสหาย เกิดเจ็บตายเสมอกัน ถึงคราวร่วมทุนค้า หากำไรมาแบ่งปัน...อ่านต่อ
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com