เสียงเพลงของชาวนาเมื่อหน้าฝน
ฝนตกฝนตกจากฟ้า
ตกลงมาสู่ไร่สู่นา
แห้งแล้งจนแสนระอา
ตกลงมาอย่าช้าเร็วไว
# อหังการ์ของอีแร้ง
แก๊ว แก๊วโก่งคอร้อง
เสียงกึกก้องกระพือบิน
จ๊อก จ๊อกที่ได้ยิน
เสียงกระจอกร้องสู้ตาย
กวี
สมัยโบราณ
คนชอบร้องเพลงเกี่ยวกับธรรมชาติ
หิมะและดอกไม้
ดวงจันทร์และสายลม
กลุ่มหมอก
ภูเขาและลำน้ำ
# ส ร ร พ สิ่ ง
ดาวโลกเมื่อเริ่มวิวัฒน์จนเกิดวัฏจักรขึ้นเป็นธรรมดาธรรมชาตินั้น จะงดงาม สุกสกาว สว่างไสวในเวิ้งจักรวาลปานใด
ช่างน่าอัศจรรย์ !!
ช่างน่าอัศจรรย์ !
ภายใต้โครงครอบของสังคมศักดินาล้าหลัง
ผืนแผ่นดินแห่งนี้ได้ให้กำเนิดบุตรหลานที่ดีเลิศ
นักมนุษยภาพ จิตเอิบอาบประชาธิปไตย หัวใจสุภาพบุรุษนักประพันธ์
ผู้ถือปากกาเป็นอาวุธ “...ยิงกระสุนแห่งถ้อยคำและเหตุผล
จนกว่าเราจะล้มลงและหมดกำลัง เรายิงเพื่อความถูกต้องชอบธรรม”
นาม ~ กุหลาบ สายประดิษฐ์
รื่นฤทัย
ขอบพระคุณได้เกิดมาร่วมโลก
พบแต่สุขสิ้นโศกทุกสถาน
ทุกพื้นที่กิจกรรมกิจการ
ทุกเนื้องานประทับแน่นทุกกิริยา
พรจากพ่อใหญ่ไพรัตน์ ถึงทางอีศานทุกคน
กราบขอบพระคุณคุณตาไพรัตน์ แย้มโกสุม ในวัย 80 ปีผู้อาวุโสแห่งเมืองปะหลาน - พยัฆคภูมิพิสัยสำหรับคำพร แด่...คณะชาวทางอีศาน และผู้อ่านทุกคน
เลวกว่านี้ไม่มีแล้ว
แลตะลึงสะพรึงผวาภาพปรากฏ
อกระทดระท้อหนอชีวิต
อำนาจเงินเหรียญตราประกาศิต
อำมหิตเกินมนุษย์สุดระอา
ฟ้าหลังฝนฝนหลังฟ้าธรรมปรากฏ
...ฟ้าหลังฝนฝนหลังฟ้าธรรมปรากฏ
ไร้กะเกณฑ์กำหนดกฎฟ้าฝน
ทั้งฝนฟ้าเปิดปลอบครอบจิตคน
ต้องก้าวพ้นฝนฟ้าใต้ฝ่าตีน...
เมื่อต้องหันหน้ามางานไร่มัน
เมื่อต้องหันหน้ามางานไร่มัน
ทุกคนแหงนหน้าดูฟ้า
ภาวนาไม่ให้ฝนตก
ไม่เช่นนั้นหัวมันจะเน่าเสีย
ฟ้ า ง า ม ( ๒ )
ฟ้าหมู่บ้านงดงามสีครามไสว ฤดูกาลบันดาลใจให้ใฝ่ฝัน
พลังรากหญ้าดั่งของขวัญกำนัล อิ่มอุ่นสุขมีแบ่งปันนั้นมือเรา
แด่… เยาวมิตร
๐ แด่เธอเยาวมิตร
เมื่อเธอรักการคิดการอ่านเขียน
เมื่อเธอมุ่งมั่นขยันร่ำเรียน
อนาคตจักแปลงเปลี่ยนด้วยมือเธอ
รำลึกชาตกาล ๑๑๒ ปี เจ้าสุพานุวง [๑๓ กรกฎาคม ๒๔๕๒ – ๙ มกราคม ๒๕๓๘]
"เว้าแล้วต้องเฮ็ด
เฮ็ดให้สุดขุดให้ถึง
ผิดหือถืกจั๋งว่ากัน
สิ่งใดดีส่งเสริมมันขึ้น
วิ บั ติ
คนเอ๋ยแถนเอ๋ยเป็นพยาน
บ้านเมืองแหลกลาญฉิบหายแล้ว
โรคห่าอาละวาดทุกย่านแนว
ขบวนแถวราษฎรกร่อนทลาย
ทวยราษฎร์ต้องอาจอง
ที่ราบสูงดินแดนแคว้นอารยะ มีธรรมนูญชีวิตลิขิตไว้
แม่น้ำซีมูลโขงเชื่อมโยงใย สรรพสิ่งสืบสานโบราณมา