เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว เริ่มที่งานรูปธรรม
ห้วงเวลาเพียง ๑๐ กว่าปีมานี้ สังคมไทยเผชิญมหาวิกฤติแทบทุกด้าน มหาวิกฤติเศรษฐกิจ “โรคต้มยำกุ้ง” ลามระบาดไปทั่วโลก, มหาวิกฤติทางการเมือง ที่พร้อมจะลุกเป็นไฟได้อีกทุกเมื่อ และมหาวิกฤติอุทกภัย ภัยธรรมชาติบวกรวมกับคุณภาพของคนไทย ทั้งหมดเผยให้เห็นเนื้อแท้ของบ้านนี้เมืองนี้ว่า มีความป่วยไข้ มีโรคร้ายเกาะกินอยู่ทุกองคาพยพ
ระบบการศึกษาของเราผิดพลาดตั้งแต่มุ่งสอนคนให้เป็นเจ้าคนนายคน แล้วยังเพิ่มกลยุทธ์เหยียบหัวคนขึ้นสู่ความเป็นหนึ่ง ขึ้นสู่ความร่ำรวยเยาวชนวันนี้ล้วนเติบโตจากเบ้าหลอมกเฬวรากที่ผู้ใหญ่ออกแบบไว้ นักวิชาการดำรงตนเยี่ยงฤๅษีชีไพร ท่วงท่าทรงภูมิรู้ นั่งอยู่บนธนสารสมบัติหลับตากอดคัมภีร์แล้วบริกรรมคาถา กระแสหลัก ตัวกู ชื่อเสียงกู
ถ้าศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติมีตัวตน เขาคงเหมือนทาสไพร่ ผู้ใส่สูทผูกเนกไท มีจิตสำนึกของการงอมืองอเท้าแต่เพ้อเจ้อว่าตัวเองมีราคาค่างวดสูงลิบลิ่ว
นิยามของข้ารัฐการทุกยุคที่ผ่านมาคือ ผู้รับใช้ที่เกียจคร้าน ลืมตัว และโกงกิน ในขณะพลเมืองส่วนใหญ่ยากจน อ่อนแอ มีทางเลือกเพียงก้มหน้างุด ๆ หาเศษเงิน และต่อท้ายเข้ารับการอุปถัมภ์จากอภิสิทธิ์ชน
อำนาจและโภคทรัพย์ของสังคมตกอยู่ในมือของคนไม่กี่ตระกูล ของเหล่านักการเมืองไม่กี่ร้อยคน พวกเขาตักตวงเอาส่วนเกินของสังคม ยอดเงินของพวกเขาพอกพูน ในทางตรงข้าม ประเทศชาติและประชาชนมีหนี้สินรุงรัง
หากเปรียบภาวะเศรษฐกิจไทยกับชีวิตการกินอยู่ของครอบครัวหนึ่ง ก็คงเป็นครอบครัวที่ไม่รู้จักทำมาหากิน ยากจนแต่ฟุ้งเฟ้อ รสนิยมสูง มีกินมีใช้ด้วยการกู้ยืม ซ้ำร้ายทุนต่างชาติก็ดุจฝูงแร้ง พวกมันร่อนบินจ้องจิกล้วงกินตับไตไส้พุงเหยื่ออยู่ตลอดเวลา
สื่อมวลชนทุกประเภทกลายพันธุ์เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทรงเกียรติ สร้างเม็ดเงินได้มหาศาล แต่สารที่สื่อถึงผู้อ่านผู้ชมไร้คุณค่า
สังคมมืดตันไม่มีอนาคต แต่ธุรกิจใต้ดินโชติช่วงชัชวาล ยาบ้าระบาดทุกหมู่บ้านตำบลเมืองกิจการบ่อนซ่องโจรเจริญ คนใช้แรงงานหมดศักดิ์ศรี จริยธรรมคุณธรรมพบได้แต่ในหนังสือสมบัติผู้ดีและคำสวดสั่งสอนทุกศาสนา
มูลเหตุเหล่านี้สะท้อนความผิดพลาด อ่อนด้อย แสดงถึงทุกส่วนทุกระบบของสังคมหมักหมมด้วยปัญหา และปัญหาทุกวันนี้มีมากมายซับซ้อนเกินกว่าจะฝากผีฝากไข้ไว้กับบุคคลใดหรือคณะใด
ภายใต้สภาพการณ์ที่ดำรงอยู่ ไม่มีทางลัดไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาโดยการคิดฝัน ทอดธุระหรือมัวแต่กล่าวคำเสียดเย้ยกันไปวัน ๆ
แล้วเราจะร่วมรักษากอบกู้บ้านเมืองได้อย่างไร
ข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนคือ เราควรเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ แม้การทำสิ่งใดบนโลกนี้ไม่มีอะไรง่ายเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวไปไกลตัว เริ่มจากงานรูปธรรมสู่งานนามธรรม เริ่มจากครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมเรียนร่วมอาชีพ รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ช่วยกันสร้างปัจจัยสี่ ให้มีกินมีใช้ มีความสุขในวิถีฮีต – คองวัฒนธรรมของตน กำหนดและเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม จากกิจกรรมกลุ่มขยายสู่กิจกรรมชุมชน
กิจกรรมเล็ก ๆ ต้องสนใจ กิจกรรมใหญ่ยิ่งต้องเรียนรู้ เรื่องชีวิตความเป็นอยู่เรื่องศิลปวัฒนธรรมละเลยไม่ได้ เรื่องการเมืองยิ่งต้องเกาะติด
จากนั้นสรุปและนำไปปฏิบัติใหม่ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ผลมากขึ้น ดีงามขึ้น มีแต่การลงเรี่ยวลงแรงเช่นนี้จึงจะได้ความคิดที่ถูกต้อง มีการปฏิบัติที่ถูกต้อง
และก็มีแต่เช่นนี้ เราจึงสามารถร่วมกันสร้างพื้นฐานชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างมั่นคงถาวรสามารถร่วมกันปรับปรุงบ้านเมืองทั้งด้านการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ให้เจริญรุ่งเรืองได้.
ด้วยจิตคารวะ
บรรณาธิการอำนวยการ