Tag

บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ ฝันปีใหม่ 2560

รัฐบาลมีความเป็นประชาธิปไตยเสมอภาค โปร่งใส มีคุณธรรม ทั้งมีนโยบายให้คนรํ่ารวยกรอกแบบสอบถามว่า รวยเท่าใหร่ รวยมาได้อย่างไรหากรวยด้วยสมอง สองมือที่สะอาด ความสามารถเป็นเลิศ ก็ประกาศเกียรติ ยกย่องเป็นแบบอย่าง หากพบการทุจริต ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปหาเศษหาเลย ข้าราชการระดับสูงมีตำแหน่งซํ้าซ้อนในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

หมากินความคิดหมดแล้ว

องค์ประกอบทุกส่วนของโครงสร้างสังคมไทยเรานับวันยิ่งอ่อนแอ องค์รัฏฐาธิปัตย์ไร้วิสัยทัศน์ มวลหมู่เสนาอำมาตย์หมดสิ้นธรรมาภิบาล ราษฎรต่างพากันหาอยู่หากินเอาตัวรอดกันไป ท่ามกลางการดิ้นรนต่อสู้ปากกัดตีนถีบ มีเพียงเส้นบาง ๆ

ข้ า คื อ ค น

๐ หนึ่งชาติพันธุ์วรรณาได้ปรากฏ ชีวิตเลี้ยวเคี้ยวคดเกินกฎสร้าง วันปู่ย่าตายายออกเดินทาง ไม่ตายดับจึงถากถางสร้างตำนาน...

ไปผูกเสี่ยวเที่ยวอีสาน

ภายหลังออกพรรษา ท้องฟ้าเปิดโล่ง ลมหนาวพัดพาความเย็นฉํ่าแผ่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง เสร็จสิ้นงานนา ข้าวเต็มยุ้ง ปลาแดกเต็มไหผู้คนเบิกบานได้ทำบุญทำทาน ดูหนังฟังหมอลำ คนจำนวนไม่น้อยจากภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศ มักตั้งคำถามว่า ถ้าไปเที่ยวอีสานจะไปดูอะไร มีอะไรให้จับจ่ายซื้อหา

“ทางอีศาน” คือ สื่อสร้างสุข

นิตยสาร “ทางอีศาน” คือสื่อสารมวลชนที่ชูคำขวัญว่า “ลึกซึ้งรากเหง้า เข้าใจปัจจุบัน รู้ทันอนาคต” เพื่อมุ่งเน้นเผยแพร่เรื่องราวข่าวสารให้ผู้คนทุกชาติพันธุ์วรรณาที่เกิดมาในแอ่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำโขง ได้ตระหนักในพลังอันยิ่งใหญที่เกิดขึ้นและสืบสานมาแล้วในอดีต วันนี้เราต้องพลิกฟื้นพลังชีวิตให้กลับมาเข้มแข็งสดชื่น และสร้างอนาคตให้ประเทศชาติรุ่งเรืองร่วมกัน

งามแล้ง

มวลเห็ดจะไม่มุดขึ้นจากดินถ้าไม่ระอุร้อน ยอดผักหวานป่งใบด้วยแดดกล้า ไข่มดแดงขาวโพลนเต็มรัง ดอกจานสีแดงแสดและดอกคูนเหลืองอุยฮุ่ยคือสัญญาณแห่งกาลแล้งรวมทั้งป่าเบญจพรรณผลัดใบไล่โทนสีใหม่จนยากที่จิตรกรจะผสมสีได้งามเท่า

ทางอีศาน 35: บทบรรณาธิการ

โลกที่เราอาศัยเกิดและจะตายสลายร่างไปนี้ คือหนึ่งเม็ดกรวดทรายในเวิ้งจักรวาล แต่บนผิวโลกที่มวลนํ้ามากกว่าดินนี้ก็มีมนุษย์มากเผ่าพันธุ์สืบสันดานกันมา มีสรรพสัตว์และพืชนับแสนล้านชนิดเกิดมาเพื่อพึ่งพา และฆ่าแกงกันกิน

เยาวภาพแห่งเดือนตุลา

ธาตุลักษณะของความเยาว์วัยอยู่ที่ความบริสุทธิ์ สดใส ร่าเริง กระตือรือร้น เสียสละ และเปี่ยมพลัง แม้ในวัยหนุ่มสาวหรือสูงอายุสักปานใด หากยังรักษาธาตุลักษณะนี้ไว้ก็ได้ชื่อว่ามี “เยาวภาพ” ในตนเอง

สืบสายเลือดตน ค้นพบชีวิตใหม่

ต้นไม้หยั่งรากลึกลงดิน เพื่อเหยียดตัวยืนตรง พุ่งยอดสู่ท้องฟ้า แผ่กิ่งก้าน ให้ใบดกหนาผลิดอกออกผล ขยายพันธุ์เป็นกลุ่มเป็นเหล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า

สายแนนอุษาคเนย์

นํ้าเต้าปุ้งผุดจากซากควายเขาลู่ ฝูงคนหมู่อาศัยได้อุปถัมภ์ ปู่ลางเซิงขุนคานซีเจาะนำ ได้ป่องเกิดอยู่กํ้าเมืองลุ่มเพียง นํ้าเต้าปุ้งควํ่าหงายกายเพศแม่ ยามครรภ์แก่กลมใหญ่ใครจะเถียง ภูมิปัญญาบรรพชนคนเทียบเคียง จึงเรียบเรียงนิทานตำนานมา

กราบอาจารย์มานิต วัลลิโภดม และอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม

ในการนำเรื่องราวแอ่งอารยธรรมสกลนครขึ้นปกนี้ ถือเป็นปฐมแห่งการเรียนรู้ผลงานทรงคุณค่าของอาจารย์ทั้งสองท่าน ผู้ร่วมรุ่นบุกเบิกและได้หักร้างถางพงงานด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ มนุษยวิทยา ฯลฯ มาด้วยชีวิต อาจารย์มานิต ท่านเป็นข้าราชการกองโบราณคดี กรมศิลปากร ในระดับปราชญ์ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีรุ่นแรก ๆ ของประเทศไทย

“อู่น้ำแอ่งอารยธรรม”

แม่นํ้าโขงเป็นมหานทีของโลก มีสายนํ้าสาขาจากภูเขาและที่ราบสูงน้อยใหญ่ไหลสมทบมากมายมนุษย์ได้อาศัยอยู่กิน ได้สร้างสมเสพวัฒนธรรมกันอยู่ทุกซอกผาและตามแหล่งที่ราบลุ่ม ย้อนไปก่อนมีเส้นขีดแดนประเทศ กลุ่มเผ่าเหล่าชนได้รวมตัวกันอยู่ตามสภาพธรรมชาติ มีวิถีชีวิต การดื่มกิน ที่พักอาศัย ภาษา นิทาน ตำนานความคิดความเชื่อ แสดงออกด้วยแบบแผนเดียวกัน ส่วนหนึ่งของเขตราชอาณาจักรไทยในปัจจุบันหมู่บ้านตำบลเมืองทางด้านภาคเหนือ และโดยเฉพาะภาคอีสาน ที่อยู่ในแอ่งอารยธรรมแม่นํ้าโขงเราต่างมีวัฒนธรรมร่วมกับอีกฟากฝั่งแม่น้ำและตามสายสาขาแม่นํ้าต่าง ๆ

แอ่งอารยธรรมแม่น้ำโขง

สองลุ่มฝั่งแม่น้ำโขง เป็นเรือนเกิดเรือนตายของกลุ่มชาติพันธุ์วรรณนาหลากหลาย ผู้คนได้หยัดยืนต่อสู้กับธรรมชาติและภัยมนุษย์มาด้วยความหฤโหดและหฤหรรษ์ ก้าวข้ามพัฒนามาตามห้วงแห่งความเปลี่ยนแปลง เกิดชุมชนบ้านเมือง เกิดรัฐเล็กรัฐน้อยและอาณาจักรต่าง ๆ

เสียงพิณเสียงแคน

เสียงพิณเสียงแคนเป็นดังชีวิตจิตวิญญาณของอารยชนลุ่มแม่น้ำโขง แม้พลัดพรากไปอยู่แห่งหนตำบลไหน ครั้นได้ฟังได้ยินจะถวิลหารากเหง้าเหล่าตน เหมือนคนที่ฝังสายรกสายแฮ่ไว้หมู่บ้าน แม้ดิ้นรนทำมาหากินอยู่ถิ่นไหนบั้นปลายชีวิตหากเลือกได้ก็ปรารถนากลับมาตายที่บ้านเกิด

แสงสว่างส่องทางสังคมไทย

ฮีต ๑๒ คอง ๑๔ ขนบธรรมเนียมและธรรมนูญชีวิตแต่โบราณ รวมทั้งแบบวิถีการบริหารจัดการตนเองที่ถูกกดทับ ระงับ ตั้งแต่ครั้งรวมศูนย์อำนาจจากทุกภาคเข้าไปอยู่เมืองหลวง เพื่อขีดเส้นแดนประกาศราชอาณาจักรขึ้นนั้น ถึงวันนี้โลกเปลี่ยนบ้านเมืองขยายตัวซับซ้อน ผู้คนพลเมืองมากล้นสังคมมีปัญหาหมักหมมมากมาย ชาวไทยจึงต้องสร้างองค์ความรู้ของตนขึ้นใหม่
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com