หลงฮอยอีศาน : บุญเดือนห้า
คำที่ว่า ‘เป็นคนเฒ่า นั่งเล่าความหลัง’ นั้นฉันเพิ่งจะเห็นแจ้งแก่ใจเอาก็ตอนที่ได้มาลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อลงรายละเอียด ซึ่งผู้ที่เป็นแหล่งข้อมูลหากไม่เป็นภิกษุชราก็เป็นพ่อใหญ่แม่ใหญ่ทั้งสิ้น บางทีพวกท่านเหล่านั้นอาจจะกำลังเหงาด้วยลูกหลานนิยมมุ่งไปตายดาบหน้ากับความศิวิไลซ์ของเมืองหลวง
จักรินทร์ สร้อยสูงเนิน
ผมเป็นนักเขียนได้เกิดจากการอ่านหนังสือคนจะเขียนหนังสือต้องอ่านหนังสือ ถ้านักเขียนคนไหนไม่อ่านหนังสือ คุณจะเป็นนักเขียนได้แค่เศษสวะ และเป็นวรรณกรรมที่มาแล้วหายไป จะไม่มีชื่อปรากฏในวงการนักเขียนไทย
วรรณกรรมไทยจากมุมมองญี่ปุ่น ผ่านข้อเขียนของ โช ฟุกุโทมิ
ทางอีศาน 12: ส่วนวรรณกรรมไทยนั้น ได้รับความสนใจจากคนญี่ปุ่นน้อยมาก เว้นแต่งานเขียนของนักเขียนหนุ่มรุ่นใหม่อย่างปราบดา หยุ่น ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นแทบทุกชิ้น และคนอ่านญี่ปุ่นให้การต้อนรับค่อนข้างมาก เพราะอะไร เดี๋ยวค่อยพูดถึง โช ฟุกุโทมิ ชี้ว่า คนญี่ปุ่นมองวรรณกรรมไทยอย่างเป็น (แค่) “ไกด์บุ๊ค” ซึ่งก็คือหนังสือนำเที่ยวนั่นเอง !
คำโตงโตย : ทางอีศาน 12
อย่าได้วาจาเพี้ยงเขาฮอขมขื่น คำปากอย่าได้ตื้นคือหม้อปากแบน อย่าได้แสนแพนหน้าวาจาเว้าอ่ง ฝูงพี่น้องพงษ์เชื้อซิบ่มี(วรรณคดี “ย่าสอนหลาน”)
เย็นทั่วหล้ากับอาเซียนฟีเวอร์ พะเรอเกวียน !
ปีนี้ศุกร์เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า แบ่งเป็นตกในจักรวาล ๒๔๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า และตกในโลกมนุษย์เพียง ๖๐ ห่า มีนาคราชให้น้ำเพียงตัวเดียว ฝนแรกปีมาก กลางปีงาม ปลายปีน้อยแลฯ คำทำนาย เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ “ปาปะ” ข้าวกล้าในไร่นาจะได้ ๑ ส่วน เสีย ๑๐ ส่วน คนทั้งหลายจะตกลำบากยากแค้น เพราะเกิดกันดารอาหาร และเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งจะเกิดอันตรายขึ้นกลางเมือง จะเกิดเพลิง โจรผู้ร้าย และจะเจ็บไข้นักแลฯ ปีนี้ถือว่าน้ำน้อย
มองเครือข่ายชาวบ้านราษีไศล
การชุมนุมปิดล้อมหัวงานเขื่อนเป็นเวลา ๖ เดือนในปี ๒๕๕๒ ปีที่ ๑๖ ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ของชาวราษีไศลและเขื่อนหัวนาเป็นช่วงเวลาแห่งการก้าวกระโดดครั้งใหญ่