ปิดเล่ม ทางอีศาน 105
“โควิด-19” ออกฤทธิ์อีกแล้ว จากแรงงานต่างด้าวจังหวัดสมุทรสาคร กระจายมาในเขตรายรอบ กทม. จำนวนการแพร่ระบาดก็ดูน่าเป็นห่วงพอสมควร และที่น่าห่วงคือไวรัสโควิดที่ยุโรปเริ่มกลายพันธุ์แล้ว ต่อไปนี้ชาวไทยต้องระมัดระวัง ควบคุมดูแลป้องกันตัวเองกันอย่างเต็มที่นะครับ
สถานการณ์โรคระบาดกลับมาใหม่ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องลำบากกันบ้าง เป็นเรื่องน่าเห็นใจครับ ยิ่งถ้ามีการล็อคดาวน์กันใหม่ก็หลีกเลี่ยงความยากลำบากไม่พ้น
ปีใหม่นี้ เราอาจจะผ่านเทศกาลในสภาพ พิเศษสักหน่อย แต่หวังว่าจบเดือนมกราคมนี้ สถานการณ์จะดีขึ้น ประเทศไทยต้องควบคุมการระบาดได้แน่นอน
สรุปว่าปี ๒๕๖๓ เราเผชิญกับโรคระบาดกันทั้งปี แต่หลาย ๆ เดือนท้าย ๆ ของปี สถานการณ์ของเราก็นับว่ายังดีอยู่ มาพลาดเอาเรื่องแรงงานเมียนมาร์ในเดือนสุดท้ายนี่แหละ
แต่อีกไม่นาน เรื่องปัญหาแรงงานเมียนมาร์คงทุเลาเบาบางลง เมื่อก่อนรายได้แรงงานเมียนมาร์ ห่างไกลจากค่าแรงงานที่ได้ในประเทศไทยมากครับ เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า ชาวเมียนมาร์ต้องทำงานที่เมียนมาร์ห้าเดือนจึงจะมีรายได้เท่ากับมาทำในไทยหนึ่งเดือน แต่ตอนนี้ในเมียนมาร์สถานการณ์เงินเดือนเริ่มดีขึ้น กล่าวคือกรรมกรเมียนมาร์ทำงานสองเดือน ก็ได้รายได้เท่ากับทำงานในไทยหนึ่งเดือน แต่ในกัมพูชาและลาวรายได้กรรมกรยังต่ำ อยู่ในระดับทำงานห้าเดือนจึงจะมีรายได้เท่ากับทำงานในไทยหนึ่งเดือน ต่อไปไม่ช้านายทุนไทยก็จะนิยมจ้างแรงงานกัมพูชามากกว่าแรงงานเมียนมาร์แล้วครับ
หลายแห่งในโลกนี้ว่าไปแล้ว สถานการณ์ทั่วโลกก็ยังมีการระบาดน่าห่วงอยู่ มีเรื่องดีหน่อยที่หลายประเทศเริ่มมีวัคซีนฉีดป้องกันโรคกันบ้างแล้ว ส่วนประเทศไทยเรานั้น เทียบกับทั่วโลกแล้วเราอย่าด่ากันเองจนเกินไปเลย ถ้าเราร่วมมือกันจริงจังเชื่อว่าสถานการณ์ต้องดีขึ้น เราควบคุมได้แน่นอนครับ
วันที่ ๒๐ ธันวาคม เรามีการเลือกตั้งนายกอบจ. สมาชิก อบจ. กัน ผลการเลือกตั้งก็ย่อมมีทั้งถูกใจและผิดหวังกัน ผู้ชนะการเลือกตั้งส่วนใหญ่ก็เป็นทีมที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองเก่า ๆ ส่วนบุคคลหน้าใหม่ ๆ อย่างทีมงานของ “คณะก้าวหน้า” ไม่ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.สักคน แต่ก็ยังได้รับเลือกเป็นสมาชิก อบจ. จำนวนหนึ่ง
สำหรับประเทศไทย การเมืองคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรกันนัก หรือถ้าจะมีก็คงมีสภาพแย่ลง เหมือนที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างเรื่องให้คนทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์กันได้สนุกปากจริง ๆ
