คองคอย
ทางอีศาน ฉบับที่ ๙ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๖
คอลัมน์: คำผญา
Column: Wise Words
ผู้เขียน: พระไม้
คองว่าสิได้ มาเห็นหน้า คองว่าสิได้ เห็นหน้าเจ้า อีสานบ้าน ว่าสิ มีคู่ค้ำ โอนอ พอว่าเถิงเดือนอ้าย เดือนเจียง จำใจกั้น คองว่าสิได้ เห็นหน้าน้อง สะนู จำใจกลั้น นาสิ ไลลอมข้าว คึดว่า เดือนสามขึ้น เหลือว่า ตั้งต่อเจ้า ยามว่า เชิญผะเหวส คองว่า บุญผะเหวสแล้ว แป้งสิ ไลลาหน้า คองบุญเลี้ยง จ้ำว่าคนสิ หอมกันฝั้น คืออีหลี จนฟันไม้ ตกกล้า ถ้าอี่น้อง มาฮอด เดือนเจ็ดเข้า หยังนอ บังตาให้ เดือนแปดเกียม เอาบุญเข้า หอมดอกไม้ ฟังแต่ นกเขาฮ้อง บ่มีแววสิเห็นหน้า บัดนี้ เดือนสิบเอ็ดขึ้น พลุตะไลบั้งไฟม้า สองคนก้ำ โอนอ มาฮอดเดือน สิบสองแล้ว ฟังเสียง ลมพานต้อง ศรีเสลียวฝั้น เมื่อจัก เขยไขน้ำ เมื่อจักไขต่อ องค์พระพายหลื่อ จำสิ จดจารไว้ ปางนี้ เถิงฤดูไหว้ | หวนคืนบ้านเก่า เมือบ้านถิ่นอีสาน บ่อนแถนแปงอินทร์หล่อ มาตุ้มสร้างสา ฯ เดือนเจียง ลมล่วง กุมโศกมโนนึก เดือนยี่คูณลาน ทึงทือถืดถึ่ง ข้าวกะเล่าลาลาน เพ็งคองบุญข้าวจี่ นี้นอ เดือนสี่มาเถิง นี้นอ คืนเมืองบุญใหญ่ ฮีตใหม่สงกรานต์ อบหอมไลผอูบ ตาปู่เดือนหก โฮมกันตุ้มต่อม แปลงไถไว้ถ้าส่าว คำเอย คองว่าสิมาดำ เอาบุญชำฮะ อวลหนีเหินห่าง เฮียมนอ พรรษามาคอบ ทานทอดฟังธรรม หาคู่คูขัน ชาตามาคึดยาก แท้นอ วันเพ็ญกะแปนเปล่า ไฟพะเนียงเสียงกะโพก สองทางสองฝ่าย คำเอย แพงเอ้ยไปลี้อยู่ ใสน้อ ใบตองขู่หย่าว แฝงไผเดียงสวาท อื่นนอ แม่ของเอยกะไหลล่วง ผยองไปปลอมเมฆ คำพะไมอุกอั่ง อวลเอย องค์พระธาตุประนมนาม |
๒๐ กันย์ ๕๕ เริ่มบทแรกถึงฮีตเดือนหก ? ๑๘ ตุลย์ ๕๕ แต่งต่อจนจบ/ยามตุดซ้ายกลางคืน (๒๔.๐๐-๐๑.๓๐ น.)
เดือนเจียง = เดือนที่หนึ่งหรือเดือนอ้าย
เดือนเจียง = เศษฟางที่เหลือจากการนวดครั้งแรก
สะแม่ง = สลบ, ตาย
งัน = ฉลอง, กล่อม
จัว = สามเณร
ปั้นข้าวจี่ บ่มีน้ำอ้อย…จัวน้อยเช็ดน้ำตา = ผญาของเก่า
บุญผะเหวส = บุญพระเวส หรือบุญมหาชาติ
ถวย = ถวาย
เลิง = ที่ลุ่มกว้างใหญ่แต่ไม่ลึก“หลอนว่า ได้ดีแล้ว…บ่หวนคืนคองเก่า สั้นบ้อ
อย่าคือ ตอกมัดกล้า…ดำนาแล้วเหยียบใส่ตม นั้นเนอ” = ผญาของเก่าสะเทิน = ไม่เต็ม, ก้ำกึ่ง
นิฮม = ชื่นชม, ยินดี“จวงจันทน์คู้…ทะลอนหอมแต่มื้อใหม่
มื้อเก่ามาล่วงล้ำ…จันทน์คู้ก็เล่าเหย” = ผญาของเก่า ?ทะลอน หมายถึง บังเอิญ?เมื่อจักไขต่อ องค์พระพายหลื่อ ผยองไปปลอมเมฆ = สารลึปสูญ ?สารชาย ฉบับที่ 3?
ขนัง = เจ็บแค้น
ทวง = หมายถึงทรวง