รุ่งอรุณแห่งความรักของสาวอีศาน


สาวอีศาน

มมีเพื่อนเป็น สาวอีศาน รู้จักสาวอีศานก็หลายคน แต่สาวอีศานที่เป็นศิลปิน รู้จักไม่กี่คน หนึ่งในที่รู้จักและชื่นชมคนหนึ่ง เป็นสาวอีศานที่ขยันเขียน ผลงานของเธอขึ้นปกทางอีศานอยู่เรื่อยมา แล้วก็หวังตลอดมาว่าสักวันจะได้เห็นสาวอีศานมาเยื้องย่างในเมืองกรุงให้ได้พบเห็นชื่นชมบ้าง

ปลายปี2561ที่ผ่านมามีนิทรรศการ “สาวอีสาน” ให้ได้ชื่นชมที่หอศิลป์จามจุรี จึงดีใจสมจินตนาที่สาวอีศานมาเยื้องกรายร่ายสีลีลาถึงสามย่าน ใจกลางเมืองหลวง ให้คนรักศิลป์และจินตนาการได้เห็นเรื่องราวสีสันของสาวอีศานในอีกมิติหนึ่งที่เป็นงานศิลปะ หาได้เป็นแต่เพียงสาวอีศานมาใช้แรงงานอยู่แต่ในโรงงานแต่อย่างใดไม่ นั่นฉันทนา “ปิดไฟใส่กลอน จะเข้ามุ้งนอน คิดถึงใบหน้า นั่งเขียนจดหมาย แล้วรีบทิ้งไปโรงงานทอผ้า ถึงคนชื่อฉันทนา ที่เคยสบตากันเป็นประจำ”

สาวอีศานอีกนัยหนึ่ง ณ ที่นี้คือสาวที่เกิดอยู่อีศาน กาฬสินธุ์ ถิ่นเมืองน้ำดำ เป็นศิลปินหญิงที่รักการสร้างงานศิลปะ เขียนรูปเรียบเรียงเรื่องราวของสาวอีศาน สร้างสรรค์ ด้วยสีสันจิตวิญญาณที่ผ่านสีสันพู่กันด้วยรักและแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมท้องถิ่นอีศาน

สิริรัตน์ฎา น้อยวิชัย ศิลปินสาวชาวกาฬสินธุ์ เล่าให้ฟังว่า กว่าจะมาแสดงที่หอศิลป์จามจุรีได้ก็ต้องใช้เวลารอคอย หลังจากการยื่นขอเพื่อให้ได้โอกาสมาแสดงที่หอศิลป์ แล้วเวลาผ่านไปหอศิลป์จามจุรีได้ตกลงให้มาโชว์ฝีมือแสดงเดี่ยวได้ในตอนปลายปี 2561


สาวอีศาน

สาวอีศานในเมืองหลวงที่หอศิลป์จามจุรี

งานชุด “สาวอีสาน” สิริรัตน์ฎาเธอมีแนวความคิดว่า

“แผ่นดินอีสานคือดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรืองด้วยประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม มีคติความเชื่อ ตำนานเล่าขาน คอยโอบอุ้ม และหล่อหลอม ให้ผู้คนอยู่รวมกันในสังคมด้วยความสงบสุขร่มเย็น ผู้สร้างสรรค์มีความภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด  จึงได้นำแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมพื้นบ้าน และวัฒนธรรมการแต่งกายอันมีเสน่ห์ของสาวอีศาน มาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิตรกรรม จึงนำมาสู่นิทรรศการ สาวอีสาน”

น่าชื่นชมสาวอีศานที่แสดงในเมืองหลวงเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1-23 เดือนธันวาคม 2561 นั้น เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่ยังจดจารึกอยู่ในหัวใจคนไทยทุกคน เธอจึงมีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมราชบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เธอบรรจงวาดด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ชื่อภาพ “ในหลวงผู้ทรงธรรม” และมีภาพสาวอีศานที่ประทับใจอีกภาพที่ชื่อ “รอรับเสด็จ” เป็นสาวอีศานที่แต่งกายในชุดอีศานเฝ้ารอรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ที่สีสันและสื่อความหมายแห่งการรอคอยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุขและจงรักภักดี

ภาพในวรรณคดีอีศาน สีสันและลีลาอาจจะใกล้เคียงกัน แต่ที่แตกต่างและโดดเด่น เช่น “ฟ้อนบูชาพญานาค” ที่วางองค์ประกอบพญานาคเป็นเส้นนำสายตาไปหาผู้สาวที่ฟ้อนอยู่อย่างอ่อนช้อย “วาดฟ้อนอีสาน” ที่ท่ารำสวยงาม มีผ้าขาวม้าเป็นฉากหลัง นอกจากหมายถึงการทอผ้าแล้วผ้าขาวม้าสื่อถึงผู้บ่าวก็ได้ ที่สนุกทั้งสีสันลีลา ต้องยกให้ “ฟ้อนบุญผะเหวด”  โดยธรรมชาติของงานบุญผะเหวดเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่รวมใจศรัทธาของชาวอีศาน เมื่อมีงานบุญย่อมมีการรื่นเริง เธอเขียนได้ถึงความสุขอิ่มบุญและความสนุกสนานถึงขนาดทีเดียว

ภาพ “ความฝัน” ได้ใช้สีชมพูแสดงถึงความฝันหวานของหญิงสาวที่มีต่อคนรัก จัดองค์ประกอบภาพดี สีกุหลาบเต็มไปหมด มีเพียงใบหน้าและร่างกายที่สะท้อนให้เห็นความงามความสุขตามความฝันให้เห็น

งานที่แปลกและแตกต่างจากงานทั่วไปของสาวอีสานชุดนี้ อยู่ที่ภาพ “เหตุแห่งทุกข์” สีจะออกหมองหม่นให้เห็นถึงความทุกข์ของคนที่มีรัก ถือกุหลาบดอกงามเป็นสัญลักษณ์ นอกจากนั้นเป็นชุดสาวอีสานที่ร้อยเรียงมาจากวรรณกรรมพื้นถิ่นอีสาน 2 เรื่องคือ ฟ้าหยาดกับนางไอ่คำ ล้วนงดงามในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธออย่างแจ่มชัด

งานของเธอคือ “สาวอีสาน” สะท้อนประเพณีวัฒนธรรมอีสาน ด้วยเส้นสายสไตล์สีสันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยังคงมุ่งมั่นในแนวอีสานเช่นนี้สืบมาไม่เปลี่ยนแปลง

l


รุ่งอรุณแห่งความรักของสาวอีศาน

“รุ่งอรุณ” เป็นชื่อภาพที่เขียนถึงนางไอ่คำ ความหมายของรุ่งอรุณ คือนางไอ่คำแรกรุ่นสาวดังอรุณรุ่งของวัน เขียนได้งดงามเหลือหลาย มีดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์อยู่เบื้องหลัง เป็นภาพหนึ่งที่ควรค่าแก่การชื่นชมในการแสดงเดี่ยวของเธอครั้งนี้ จนมาถึงวันสุดท้ายของการแสดง ภาพรุ่งอรุณยิ่งมีความหมายโดดเด่นปรากฏขึ้นไปอีก  เมื่อนำภาพรุ่งอรุณขึ้นประมูลในเฟซบุ๊ก

เรื่องเป็นอย่างนี้เธอว่า “เธอได้นำภาพ “รุ่งอรุณ” มาประมูลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวรายได้ทั้งหมดมอบให้เพื่อนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่มหัศจรรย์จริงๆ ไม่คิดว่าจะได้ยอดประมูลสูงขนาดนี้ และไม่คิดว่าจะมีคนกล้าโอนเงินมาให้จำนวนมาก มาให้คณะของเรานำไปช่วยเพื่อนโดยที่ไม่กลัวหรือกังขาใดในการกระทำของเรา

ได้สัมผัสถึงความรักความเมตตาและจิตอันเป็นกุศลของผู้เข้าร่วมประมูลทุกคน รวมถึงคนที่กดแชร์กดไลค์ และคอมเม้นท์ เอาใจช่วยต่างๆ และในวันนั้นวันที่23ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันแสดงงานวันสุดท้าย และเป็นวันประมูลงานวันสุดท้ายเช่นกัน เป็นวันที่รับแต่สิ่งดีเจอมิตรภาพใหม่ที่ที่สวยงาม มีพี่คนหนึ่งเข้ามาซื้องานแล้วพี่เขายังมาช่วยเก็บงานต่อ เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่น้ำใจยิ่งใหญ่เหลือเกิน บางท่านซื้อของฝากมาฝาก เป็นวันที่มีคนเข้ามาบริจาคเงินแบบคาดไม่ถึง ทั้งวันมีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์

ได้แต่ขอกราบขอบพระคุณผู้เข้าร่วมประมูลผลงานภาพวาดทุกท่านขอขอบพระคุณคุณสุโกศล โอสายไทย ห้างเพชรทองอุเทน จ.มหาสารคาม ผู้ชนะการประมูลด้วยยอด 70,000 บาท ขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีอีกหลายท่านที่ร่วมบริจาคเงินรวมเป็นจำนวน 12,000 บาท ขอบคุณผู้กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์และผู้สื่อข่าว รวมถึงผู้ให้กำลังใจและเอาใจช่วยทุกคน การประมูลผลงานในครั้งนี้จนยอดรวมเป็นจำนวนแสน  ถือว่าทุก ๆ คนมีส่วนร่วมที่ได้สร้างบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้มองเห็นพลังความรักความสามัคคีความดีงามการให้ที่ยิ่งใหญ่อย่างบริสุทธิ์ใจ และจิตอันเป็นกุศลที่ได้ทำร่วมกัน ให้รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆคนจริงและคิดว่าแพรวเพื่อนซึ่งป่วยอยู่ก็คงดีใจมากเช่นเดียวกัน

ขอให้การร่วมทำบุญในครั้งนี้ส่งผลให้แพรวและทุกคนทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ร่ำรวยความสุข ร่ำรวยมิตรสหายที่ดีการงานเจริญรุ่งเรือง พบเจอแต่สิ่งดีงามในชีวิตตลอดไป”

เป็นการแสดงภาพเขียนในวันสุดท้าย อันหมายถึงงานจะจบลง แต่กลับเป็นวันสุดท้ายที่มีความหมายมีคุณค่ายิ่ง โดยเฉพาะ ภาพ “รุ่งอรุณ” ที่นำมาเปิดประมูลภาพนั้น ได้มีผู้เข้าร่วมประมูล และได้มีผู้มีจิตศรัทธา บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือด้วยดี ด้วยเจตนาอันน่าศรัทธาเพื่อให้ได้ช่วยเหลือเพื่อนที่เจ็บป่วยหนักเท่าที่จะทำได้  แม้การช่วยเหลือนั้นจะไม่สามารถทำได้ดุจดังเช่นคุณหมอผู้รักษาเยียวยาก็ตาม แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความรักความมีน้ำใจไมตรีที่ยื่นมอบให้กับเพื่อนผู้เจ็บป่วยทุกข์หนักสาหัส ได้มีเรี่ยวแรงกำลังใจสู้ชีวิตสู้กับโรคร้ายได้อย่างมีความหวัง


ความสุขของสาวอีศานเมื่อมาเมืองกรุง

เมื่อถามว่าการมาแสดงงานสาวอีสานในเมืองกรุงนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง เธอบอกว่า

“การได้มาแสดงงานครั้งนี้คุ้มค่าสุด ๆ ในส่วนแรกคือ เรื่องของงานการมาแสดงเดี่ยวครั้งนี้ถือว่าได้นำผลงานจริงมาให้คนที่ชื่นชอบศิลปะได้มาชม และได้รับคำติชมหลายอย่างทำให้มองเห็นข้อดีและข้อด้อยในงานของตนเอง ทำให้พบสิ่งที่ต้องแแก้ไขในงานที่ทำ  ผลงานได้รับคำติชมคำวิจารณ์ทั้งกำลังใจข้อเสนอแนะที่ควรแก่การน้อมรับไปพิจารณาแก้ไขปรับปรุง เพื่อพัฒนาให้งานของเราได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จึงทำให้เรามีไฟที่จะทำงานเพิ่มมากขึ้นอย่างมากมายมหาศาล”




นับเป็นการบุกเมืองกรุงของสาว อีศานอันมีคุณค่าสง่างาม และในอนาคตเราคงได้เห็นสาวอีศาน ได้จัดนิทรรศการแสดงเดี่ยวเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมอีสานให้ได้ชื่นชมกันอีก ทั้งในชนบทและกรุงเทพ รอให้ถึงรุ่งอรุณแห่งวันนั้นมาถึง เราคงจะได้พบเรื่องราวดี ๆและภาพเขียนอันงดงามเช่นดังครั้งนี้อีก

Related Posts

ไสว แกล้วกล้า : ผู้กล้าสร้างสีสันทุ่งกุลาร้องไห้
เมืองนครจำปาศักดิ์ – ๓ –
ดอกขะเจียวจากโคกขี้แลน ตอนที่ 4
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com