บ่ายวันนี้ไปร่วมชมการบรรยายประกอบการแสดงเรื่อง “ถ้วยสาเกพระจักรพรรดิกับข้าพเจ้า” โดย อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ที่โรงละคอนแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

การจับชูถ้วย “สาเก” ขึ้นเป็นแก่นหลักในการนำเสนอประเด็นเรื่องราวต่าง ๆ โดยย้อนโยงใยถึงชีวิตครอบครัวผู้บรรยาย ที่อำเภอบ้านโป่งถึงกับเกิดเหตุวิกฤติ ทั้งสถานที่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของสะพานรถไฟสายมรณะ ที่เชลยศึกจากนานาประเทศเสียชีวิตร่วมแสนคน สร้างความสัมพันธ์ที่ทั้งรักทั้งชังทั้งโกรธเกลียดเคียดแค้นระหว่างไทย -ญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วเชื่อมยาวถึงอัตลักษณ์และจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น ทั้งเน้นย้ำบทสรุปถึงองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นผู้นำพาชาติฝ่าพ้นความล่มสลาย ด้วยทรงพระคุณและเปี่ยมปรีชาบารมีเทียบได้กับองค์กษัตริย์บางประเทศของซีกโลกตะวันตก

การนำเรื่อง “ถ้วยสาเกพระจักรพรรดิกับข้าพเจ้า” กลับมานำเสนอในครั้งนี้ ตรงกับห้วงเดือนตุลาคมซึ่งสังคมไทยเกิดสองเหตุการณ์สำคัญคือ “14 ตุลา 16″ กับ ” 6 ตุลา 19″ อันเป็น “จิตสำนึกร่วมทางสังคมและทางประวัติศาสตร์” ที่ตัวผู้บรรยายเป็นนักประวัติศาสตร์ และมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันโดยตรง ได้เพิ่มความเข้มข้นให้กับเนื้อหา และกดเร้ากระชากอารมณ์เมื่อดึงเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ออกมาปะทะกับเพลง “หนักแผ่นดิน”

ทั้งหมดทั้งมวลคือ การเด็ดยอดเอาประสบการณ์ มุมมอง ชีวิต ความคิด ของผู้บรรยายออกมาประมวลเสนอส่งต่อ จากคนรุ่นที่เกิดยุคเผด็จการครองเมือง สังคมเต็มด้วยอภิสิทธิ์ชน ค่านิยมเจ้าขุนมุลนาย และสมคบทุนใหญ่ให้เติบกล้าขาแข็ง เพื่อส่งผ่านอุดมทัศน์ของตนถึงคนหลากหลายรุ่นในยุคสมัยปัจจุบัน

ด้วยความสมบูรณ์ของตัวเนื้อหา บวกกับการเขียนบท การดำเนินเรื่อง ฉาก แสงสี หุ่นเงา ภาพยนตร์สารคดีและเพลงประกอบ การบรรยายประกอบการแสดงที่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนี้ จึงได้ส่งผ่านสาระและความประทับใจอย่างลงตัวยิ่ง

จากเสียงตอบรับตั้งแต่การจัดขึ้นครั้งแรกจนวันสุดท้ายในวันนี้ ทำให้ผู้บรรยายได้กล่าวความในใจช่วงเสวนาหลังการแสดงว่า “ผมนอนตายตาหลับแล้ว”

ฉากจบการบรรยายประกอบการแสดงนั้น… อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ รินสาเกใส่ถ้วยที่ได้รับเป็นของที่ระลึกจากองค์จักรพรรดิ แล้วก้าวเดินมายืนยื่นถ้วยขึ้นสุดมือต่อหน้าผู้ชม พร้อมกันนั้นทีมงานก็ทยอยเสิร์ฟสาเกมอบให้ผู้ชม และเมื่อเสิร์ฟครบหมดแล้วอาจารย์ชาญวิทย์นำกล่าวคำว่า “คัมไป”

ทุกคนพร้อมใจกันยกถ้วยสาเกกระดก

รสสาเกสัมผัสลิ้น กำซาบผ่านลำคอ ช่างหวานละมุ่นเหลือเกิน

“คัมไป… ไชโย ไชโย ไชโย”

~~ขอบคุณภาพจาก สถาบันปรีดีพนมยงค์~~

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com